พามาวัดอุณหภูมิความร้อนแรงธุรกิจค้าส่งไทย หลังแบรนด์ใหญ่งัดโมเดลใหม่ท้าชนกันฝุ่นตลบ ล่าสุด BRC ส่ง “Big C Food Service” เข้าชิงชัย แน่นอนว่าการแข่งขันที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค เพราะมีทางเลือกมากขึ้น
อุณหภูมิความร้อนแรงธุรกิจ “ค้าส่งไทย” ตอนนี้ร้อนฉ่ามากๆ หลังจากที่บิ๊กแบรนด์หลายรายเคลื่อนทัพผุดโมเดลใหม่มาเอาใจลูกค้า จะเรียกได้ว่าศึกช้างชนช้าง! ก็ว่าได้ วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาดูสมรภูมิค้าส่งไทย ว่ามีแบรนด์ไหนมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง โดยก่อนหน้านี้มีข่าวเขย่าวงการค้าส่งไทยส่งท้ายปี2566 เมื่อบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ประกาศจุดพลุลงทุนส่ง GO Wholesale (โก โฮลเซลล์) ศูนย์ค้าส่งสินค้าเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านค้าปลีกรายย่อย ภายใต้ร่มเงาของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ลงสู้ศึกค้าส่งไทย
ทั้งนี้ GO Wholesale (โก โฮลเซลล์) ได้มาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่สำหรับธุรกิจค้าส่งอาหารของไทยด้วยความแตกต่าง พร้อมชูธงอาหารสด และวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั้งในไทย และทั่วโลก พร้อมบริการใหม่ที่โดนใจ พร้อมรับแนวโน้มการเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว และภาคการบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจกลุ่มอาหารที่ให้บริการค้าส่ง-ค้าปลีกครบวงจรครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า
โดย "ญนน์ โภคทรัพย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า พร้อมที่จะขยายธุรกิจ B2B ในกลุ่มอาหาร ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของตลาดค้าส่งอาหารในไทย ที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจึงได้เปิดตัวธุรกิจ ‘GO Wholesale’ ขึ้น เพื่อให้เป็น New Growth Engine สำหรับ CRC ที่จะช่วยเติมเต็มกลุ่มอาหารให้เป็น Total Solution และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร โดย GO Wholesale จะเป็นหนี่งใน Key Driver หลักให้กับธุรกิจกลุ่มอาหารของ CRC พร้อมทั้งเป็น Platform of Trust ให้กับทุก Stakeholders ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีที่สุดให้กับผู้ประกอบการ
“GO Wholesale มีกลุ่มเป้าหมายหลัก 4 กลุ่ม คือ Food Retailers, Food Services, Food Lovers และกลุ่มโฮเรก้า ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจาก Power of Network ของกรุ๊ป ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า 110 แห่ง ที่ครอบคลุมใน 100 จังหวัด ทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม ร้านอาหารกว่า 6,750 ร้าน และ โรงแรม 93 แห่ง นอกจากนี้ยังมี Loyalty Platform ที่ครอบคลุมลูกค้ามากกว่า 28 ล้านราย ซึ่งจะเปิดศูนย์ค้าส่ง GO Wholesale สาขาศรีนครินทร์ ให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566 นี้ เป็นต้นไป”
ในส่วน “แม็คโคร” ธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ของไทย ภายใต้ร่มเงาของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี จากการสำรวจปัจจุบันมีสาขา163 สาขา แบ่งเป็นในไทย 153 สาขา ต่างประเทศ 10 สาขา โดยกลยุทธ์หลักๆของ “แม็คโคร” จะเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ร้านโชห่วย กลุ่มโฮเรก้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผู้ให้บริการจัดเลี้ยง และลูกค้าทั่วไป
ต่อมาคือความเคลื่อนไหวของบริษัท บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส จำกัด ที่ล่าสุด BRC เดินหน้าลุยเปิด “Big C Food Service” ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกครบวงจร พร้อมปักธงขยายสาขาในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล ให้ครบ 8 สาขา ในปี 66 ซึ่งนายพิษณุ พงษ์วัฒนา รองประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส สายปฏิบัติการธุรกิจ บริษัท บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารที่ปั้น MM Mega Market ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก อันดับ 1 ในเวียดนามจนประสบความสำเร็จ กล่าวว่า ภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการโดยรวมเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นจากอานิสงส์จากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เห็นได้จากความคึกคักของนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมา และเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยรวมส่งสัญญาณบวกเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกอย่างครบวงจร และครอบคลุมในกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์
ทั้งนี้บริษัทวางแผนขยายสาขาบิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส ให้ครบ 8 สาขา ภายในปี 2566 ทั้งในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ปัจจุบัน บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส มีทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาปาล์มไอส์แลนด์, สาขาโชคชัย 4, สาขาเมืองทองธานี, สาขาเอกชัย, สาขาบางนา และสาขาสนามบินน้ำ พร้อมให้การบริการที่เหนือกว่าแบบ One-Stop Shopping สะดวกสบาย และมีบริการพิเศษจัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมใช้ทั้ง คัด หั่น สับ พร้อมจัดส่งสินค้าฟรี ตามเงื่อนไขที่กำหนดซึ่งจะช่วยผู้ประกอบการประหยัดเวลา ลดต้นทุน และเพิ่มกำไร เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.
อย่างไรก็ตามบิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส (Big C Food Services) เป็นแบรนด์ร้านค้าที่จัดตั้งภายใต้ บริษัท บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส จำกัด ธุรกิจในกลุ่ม บิ๊กซี รีเทล (BRC) ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค แก่ผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป ภายใต้แนวคิดที่เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง Cash & Carry และ Retails & Mall ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นร้านโชห่วย ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง และบริษัท ห้างร้าน มองว่าฐานลูกค้าหลักในกลุ่มดังกล่าว จะเป็นอีกเซ็กเมนต์ที่ขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจร้านอาหารที่ยังเติบโตดีอยู่
“ศักยภาพของ BRC ที่พร้อมขยายช่องทางการค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการลงทุนในประเทศไทยของ BRC เอง ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสินค้าที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน ทั้งสินค้าส่ง-ค้าปลีก ราคาเหมาะสม มีความหลากหลายและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ BRC ยังคงเดินหน้าลงทุนขยายสาขาใหม่ รีโนเวทสาขาเดิม เพื่อยกระดับ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการช้อปให้กับลูกค้าของบิ๊กซี เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงฐานผู้บริโภคทั่วประเทศ”
ทั้งหมด คือความเคลื่อนไหวของธุรกิจค้าส่งไทย ที่บิ๊กแบรนด์ต่างขนโมเดล และรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ มาเจาะลูกค้า แต่…การแข่งขันที่ดุเดือดย่อมส่งผลดีต่อผู้บริโภค เพราะมีทางเลือกที่มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง