บิ๊กโจ๊ก"เปิดกล้องบ้าน "กำนันนก" พบโกหกกันอื้อ เตรียมออกหมายจับเพิ่ม
บิ๊กโจ๊ก ยันภาพวงจรปิดบ้าน "กำนันนก" พบ ขัดแย้งกับคำให้การของตำรวจในที่เกิดเหตุ “นัดแรกก็ไปแล้ว” ไม่มีใครจับหน่อง มือยิงสารวัตรแบงค์ จ่อเอาผิดให้การเท็จ กู้ "เซิร์ฟเวอร์" ได้แล้ว 13 ตัว ยืนยืน ภาพไม่มีตัดต่อ คาด 2 วงจรปิดช็อตสำคัญ ทุบโต๊ะ-ลั่นไก บ่ายพรุ่งนี้ดูได้
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมและติดตามความคืบหน้าคดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เมื่อมาถึงได้ขึ้นไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่กู้ได้จากเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นได้ลงมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
กู้เซิร์ฟเวอร์กล้องบ้านกำนันนกแล้ว 13 ตัว เหลือ 2 ตัว
โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุภายหลังดูกลัองวงจรปิดว่า ในบ้านกำนันนก มีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 15 ตัว กู้เซิร์ฟเวอร์ได้มา 13 ตัว สมบูรณ์ 100% เห็นภาพและได้ยินเสียงชัดเจน ว่าใครทำหน้าที่อะไรก่อนและหลังเกิดเหตุ ใครโกหกว่าช่วยเหลือคนเจ็บแต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ช่วย ส่วนกล้องวงจรปิดที่เหลืออีก 2 ตัวกำลังเร่งดำเนินการ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ช่วงบ่ายจะได้ภาพครบทั้งหมด แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดพฤติการณ์ได้ว่าคนไหนทำอะไรอยู่เพราะเกี่ยวกับเรื่องคดีและเป็นข้อมูลในสำนวนการสอบสวน
คำให้การของตำรวจ ที่อยู่ในบ้านกำนันนก ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
จากคำให้การทั้งหมดของตำรวจ ที่สอบปากคำมา พบว่า ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงขณะนี้สรุปภาพรวมได้ว่า จากคำให้การทั้งหมดทุกคนให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง วันนี้จะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการให้การเท็จต่าง ๆ รวมถึงคดีอาญา ส่วนใครจะมีความผิดอย่างไรคืนนี้จะประชุมคณะทำงานและค่อย ๆ ไล่เรียงไป ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องมาไล่เรียงอีกครั้ง
ส่วนภาพที่ออกมาเห็นได้ชัดเจนว่า คนเจ็บอยู่ในลักษณะอย่างไรบ้าง การก่อเหตุเป็นอย่างไร ซึ่งเห็นภาพชัดเจนทั้งหมด สอดรับกับแนวทางการสืบสวนส่วนเรื่องอาวุธปืนมีทั้งตำรวจและคนนอก ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นรายละเอียดที่ปรากฏตามภาพ แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดมากกว่านี้ได้
นัดแรกก็ไปแล้ว
ทั้งนี้วันเกิดเหตุ จากหลักฐานพบว่า ทั้งตำรวจและพลเรือนเกือบทุกคนพกปืนจำนวนมาก และได้ยิงเสียงปืนขณะเกิดเหตุชัด ซึ่งต่างคนต่างหนีกระเจิดกระเจิงหลังปืนนัดแรกดังขึ้น จากภาพบอกชัดว่า ไม่มีใครทำหน้าที่ ไม่มีใครจับในหน่อง ทั้งนี้ภาพจะแล่งกลุ่มคนได้ 3กลุ่มคือ
- ช่วยเหลือ
- หนีไปเลย
- ควบคุมพื้นที่
ซึ่งส่วนของตำรวจมีทั้งหนีไปเลย และไม่ทำหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะมีการแจ้งดำเนินคดีกับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ต้องดูรายละเอียดในรูปคดีก่อน
รอแกะภาพกำนันนกทุบโต๊ะก่อนเกิดเหตุยิง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า มือยิงยืนยันว่าเป็นนายหน่องที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญไปแน่นอน แต่คนสั่งนายหน่องจะเป็นกำนันนกหรือไม่ ต้องรอดูกล้องวงจรปิดอีก 2 ตัวที่เหลือ
ส่วนเซิร์ฟเวอร์ที่นำไปกู้มี 2 ตัว อีก 1 ตัวกำลังดำเนินการ ยอมรับจุดที่มีปัญหาคือสระว่ายน้ำที่มีการกินเลี้ยงกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญ แต่ไม่กังวลว่าจะกระทบกับเรื่องคดีเพราะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนมากอยู่แล้ว จากคำให้การของพยานบุคคลและจากนิติวิทยาศาสตร์ “พรุ่งนี้จะได้เห็นภาพจากกล้อง 2 ตัว จะได้เห็นตอนทุบโต๊ะ และตอนยิง”พร้อมยืนยันว่า ภาพวงจรปิดไม่มีการตัดต่อ เพราะตนเองกำกับเอง และต้องเรียนว่าการถอดเซิร์ฟเวอร์ต้องระวังและควบคุมอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องสงสัย
ตรวจสอบฮั้วประมูล 1,500 โครงการและส่วยสติกเกอร์
ส่วนตอนนี้เรื่องสำคัญคือการตรวจเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดว่าเงินที่เข้ามานั้นถูกต้องหรือไม่ การประมูลโครงการทั้งหมด 1,500 โครงการ เป็นการประมูลที่ถูกต้องหรือฮั้วประมูล หรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทุกส่วนตั้งทีมร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันว่าใครทำอะไร ตรวจสอบเรื่องไหน แต่เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนนี้ ป.ป.ง.จะเป็นคนดำเนินการ ถ้ามีความผิดก็ต้องนำไปสู่ความผิดฐานฟอกเงินและยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำตามมา และส่วนที่ 2 ต้องไล่เรื่องส่วยสติกเกอร์ว่ามีการประกอบกิจการน้ำหนักเกินหรือไม่
ส่วน รปภ.ที่ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดว่าถือปืน วันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ส่วนปืนที่ รปภ.คนดังกล่าวได้มา มาจากญาติที่ซื้อปืนด้วยสวัสดิการ ทำหน้าที่ปกป้องกำนันนกหลังเสียงปืนดังขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่าในที่เกิดเหตุมีคนร่วมงานมากกว่า 57 คน ซึ่งต้องสอบปากคำทั้งหมดอีกครั้งส่วนที่มีรายงานว่ามีตำรวจยศรองสารวัตรปราบปรามใน จ.นครปฐม ขับรถนำกำนันนกในวันเกิดเหตุได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนจะมีตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมหรือไม่ อาจจะมีแต่ยังบอกพิกัดไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
