svasdssvasds

กำนันนก ปัดเอี่ยว ยิงตำรวจ โบ้ย หน่อง ตัดสินใจเอง สั่งถอดกล้องวงจรปิดเกลี้ยง

กำนันนก ปัดเอี่ยว ยิงตำรวจ โบ้ย หน่อง ตัดสินใจเอง สั่งถอดกล้องวงจรปิดเกลี้ยง

"กำนันนก" ปัดเอี่ยว ยิงตำรวจ หลัง “หน่อง” ถูกวิสามัญ ลูกน้องตัดสินใจเอง ไม่ทันรู้ จึงไม่ได้ห้ามปราม พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ ตำรวจมั่นใจพยานในเหตุการณ์เพียบ ชี้กำนันเป็นคนสั่งให้ถอดกล้องวงจร และเช็ดคราบเลือด

8 กันยายน 2566  ภายหลังตำรวจชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก) วิสามัญ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ “หน่อง ท่าผา” ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ. 462/2556 ลงวันที่ 7 กันยายน ในคดีก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล. 1 กก.2 บก.ทล.เสียชีวิต

ขณะที่ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาสำคัญในคดี

กำนันนก ยังคงให้การปฏิเสธ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง และไม่ได้ทำ โดยตนไม่ทราบเรื่องพยานหลักฐาน แต่กำนันนก ยืนยันว่า ไม่ได้ยุยงส่งเสริม หรือใช้ให้กระทำความผิด ไม่มีอย่างแน่นอน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก คงไม่ทันรู้ จึงไม่ได้ห้ามปราม พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำอย่างแน่นอน 

 

ทั้งนี้คำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ ล้วนให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า กำนันนก เดินไปนั่งที่โต๊ะของกลุ่มลูกน้อง มีการพูดคุยอะไรกันบางอย่างกับนายธนัญชัย จากนั้น ให้หลังประมาณ 5 นาที นายธนัญชัย จึงลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินตรงไปที่ พ.ต.ต.ศิวกร ก่อนจะชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่จนเสียชีวิต

ขณะที่การสืบสวนยังทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นายประวีณ อยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก เพราะการตั้งวงนั่งดื่มกับกลุ่มลูกน้อง เริ่มมาตั้งแต่ เวลาประมาณ 15.00 น. กระทั่งมาเกิดเหตุช่วงเวลา 21.00 น. ของวันเดียวกัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายอย่าง โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ที่มีร่องรอยการรื้อ การถอดเซิร์ฟเวอร์ระบบวงจรปิด ทั้งภายในบ้านและบริเวณโดยรอบ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะอาจเข้าข่ายกระทำผิดฐานทำลายพยานหลักฐานทางคดี

กำนันนก ปัดเอี่ยว ยิงตำรวจ โบ้ย หน่อง ตัดสินใจเอง สั่งถอดกล้องวงจรปิดเกลี้ยง

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า สำหรับคดีหลักในการยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของตำรวจกองปราบปราม หลังจากมีการโอนสำนวนคดีไปให้ดำเนินการ จากการสอบปากคำแม่บ้านให้การว่า กำนันเป็นคนสั่งให้ถอดกล้องวงจร และเช็ดคราบเลือด โดยวันนี้จะแจ้งข้อหาเพิ่มคือร่วมกันฆ่า

กำนันนก ปัดเอี่ยว ยิงตำรวจ โบ้ย หน่อง ตัดสินใจเอง สั่งถอดกล้องวงจรปิดเกลี้ยง

ส่วนคดี ที่เกี่ยวกับความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157หรือไม่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ21นายที่อยู่ในเหตุการณ์ จะแยกมาอีกสำนวน โดยมีตนเองเป็นผู้กำกับดูแล และให้ทางสภ.เมืองนครปฐม เป็นผู้สอบปากคำ และจะเรียกตำรวจทั้ง 21นาย มาสอบปากคำในวันนี้ ซึ่งทั้งหมดจะต้องรอผลการสอบปากคำทั้งหมดก่อน

มีรายงานว่าภายหลังควบคุมนายประวีณ มาสอบปากคำที่กองปราบ พ.ต.อ.ประทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน เข้าดำเนินการสอบปากคำ มุ่งประเด็นพฤติการณ์แวดล้อมในวันเกิดเหตุ และมูลเหตุจูงใจ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related