พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรนายกฯ-ครม. ให้มีกำลังใจ กำลังกาย และปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อประเทศชาติและประชาชนมีความสุข ทรงชมนายกฯเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ครม.ก็มีความสามารถ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่รู้จักกัน
"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำ ครม.ใหม่เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ พระราชทานพรให้มีกำลังใจ กำลังกายและปัญญาที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อประเทศชาติและประชาชนมีความสุข
วันที่ 5 ก.ย. เวลา 10.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เข้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่จะเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าเข้าตึกสันติไมตรี จากนั้นเวลา 11.00 น.กลุ่มรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยได้เดินทางมาถึงตึกสันติไมตรี นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการถ่ายรูปติดบัตรนายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีทั้งหมดเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
เวลา 13.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรีรวม 34 คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสแก่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ความว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้พบกับคณะรัฐมนตรีซึ่งได้มาถวายสัตย์ในวันนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่รู้จักกัน เพราะหลายคนก็เคยรู้จักกันแล้ว หลายคนก็ยังไม่เคยรู้จัก จะได้รู้จักกันและแสดงความยินดีที่มีความศรัทธาเข้ามาบริหารประเทศ ก็ขอถือโอกาสให้พร ให้มีกำลังใจ กำลังกาย และปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสุข และเพื่อประโยชน์เป็นส่วนรวมต่อประเทศชาติ และประชาชน ข้าพเจ้ามีความมั่นใจว่า ท่านมีความตั้งใจดีทุกคน มีศรัทธาทุกคน ก็ขอให้พรให้ท่านมีกำลังใจต่อไปในการปฏิบัติหน้าที่
จากนั้น นายเศรษฐาและคณะรัฐมนตรีได้ถวายความเคารพและนั่งลงกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า “ขอให้มีความสุขความเจริญ และมีกำลังใจ เพราะท่านนายกฯ ก็เป็นคนเก่งอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรีก็มีความสามารถ”
ต่อมา นายเศรษฐานำ ครม.ชุดใหม่ถ่ายภาพรวมที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนได้นำ ครม.เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์และปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนและ ครม.จะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป
"ผมขอยืนยันรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกท่านที่มาในวันนี้ มาที่นี่ มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน รัฐบาลนี้เรามีความตั้งใจ เพราะปัญหามีมากมาย เราจะทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวัน ทุกนาที เราจะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันที่ 8 ก.ย.นี้ จะลงพื้นที่จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชนทุกคน เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป และสัปดาห์หน้าในวัน 11 ก.ย. จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา รัฐบาลนี้เราจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้ประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต" นายเศรษฐากล่าว
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ว่า ครั้งนี้เป็นการเข้าถวายสัตย์ฯ เป็นครั้งที่ 2 ของตนเอง ต้องเรียนด้วยความเคารพว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารที่ทำให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจอย่างมาก มีพระราชกระแสรับสั่งให้กำลังใจ หลังจากถวายสัตย์ฯ เสร็จสิ้นพระองค์ได้ทรงพระดำเนินเข้ามาหานายกฯ ด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม และรับสั่งให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ได้ดี พระองค์ท่านยังทรงชมนายกรัฐมนตรีว่าเชื่อมั่นว่าเป็นคนเก่งอยู่แล้ว และทรงพระสรวล เราเองก็มีความปีติ ตามที่เราได้ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสิ่งที่งดงามและเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับ ครม. ที่พระองค์พระราชทานกำลังใจให้กับ ครม. ซึ่ง ครม.บางท่านก็เคยเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์มาแล้ว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีน้ำพระทัยที่งดงาม
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พระองค์ท่านได้พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ ครม. พวกเราทุกคนต้องสำนึกและถวายชีวิต โดยทำงานเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และเพื่อพระองค์ท่าน ซึ่งตนมองว่างานของกระทรวงมหาดไทยเป็นงานที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนได้รับการยกระดับที่ดีขึ้นและมีความสุข