svasdssvasds

"วิธีการจัดเก็บสารเคมี" เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

"วิธีการจัดเก็บสารเคมี" เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

"วิธีการจัดเก็บสารเคมี" ที่ดีที่สุด คือการจัดกลุ่มสารเคมีตามความว่องไวต่อปฏิกิริยา และกำหนดให้สารที่เข้ากันไม่ได้ วางแยกเก็บให้ห่างจากกันอย่างเด็ดขาด

 สารเคมีอันตรายจัดเป็นสิ่งคุกคามที่สำคัญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เนื่องจากสารเคมี มีคุณสมบัติความเป็นอันตรายหลายด้าน อาทิ มีพิษ กัดกร่อน ไวไฟ หรือระเบิด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อ ผู้ปฏิบัติงาน ทรัพย์สิน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันประเทศไทยมีการนำสารเคมีอันตรายมาใช้ ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนหลากหลายชนิด 

 หากการใช้งานและเก็บรักษาสารเคมีอันตรายไม่ได้มาตรฐานที่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดอันตรายและผลกระทบตามมาได้ จากสถิติรายงานการเฝ้าระวังสถานการณ์อุบัติภัยหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสารเคมีในประเทศไทยปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม พบว่าเกิด เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีทั้งหมด 109 ครั้ง โดยเป็นเหตุเพลิงไหม้ ระเบิด สารเคมีรั่วไหล อุบัติเหตุการขนส่ง 

 ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่จะเกิดในโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุด ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวสามารถ ป้องกันได้ หากผู้ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีมีความเข้าใจ และการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายและความเสี่ยง ของการใช้และการเก็บรักษาสารเคมีอันตราย 

"วิธีการจัดเก็บสารเคมี" เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

 

 

 

 

วิธีการจัดเก็บสารเคมีนั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่า สารเคมีใดมีความอันตรายมากหรือน้อย ซึ่งก่อนที่จะจัดเก็บนั้น เราจำเป็นที่จะต้องรู้ประเภทของสารเคมีก่อน โดยสามารถพิจารณาจากคุณสมบัติความเป็นอันตรายโดยคุณสมบัติหลักๆ ของสารเคมีนั้น นั่นก็คือ การติดไฟ การระเบิด และการออกซิไดซ์ ตามมาด้วยคุณสมบัติรอง เช่น ความเป็นพิษ ความกัดกร่อน นั่นเอง

ประเภทของสารเคมี แบ่งได้ดังนี้

• สารติดเชื้อ

• สารกัมมันตรังสี

• วัตถุระเบิด

• แก๊สอัด ก๊าซเหลว หรือก๊าซที่ละลายภายใต้ความดัน

• สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง

• สารให้ก๊าซไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ

• สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์

• สารออกซิไดซ์

• ของแข็งไวไฟ

• ของเหลวไวไฟ

• สารพิษ

สารกัดกร่อน

• ของเหลวติดไฟ/ ของเหลวไม่ติดไฟ

• ของแข็งติดไฟ/ ของแข็งไม่ติดไฟ

"วิธีการจัดเก็บสารเคมี" เก็บอย่างไรให้ถูกต้อง ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

วิธีแบ่งประเภทของการจัดเก็บสารเคมีได้อีกแบบหนึ่ง ดังนี้

1. สารเคมีไวไฟ เป็นสารเคมีที่สามารถติดไฟได้ในอุณหภูมิและความดันปกติ

วิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้

• ควรเก็บในพื้นที่อากาศถ่ายเท 

• เก็บไว้ในภาชนะที่ปลอดภัย ควรมีฝาปิดอย่างแน่นอน และถ้าจะให้ดียิ้ง ควรจะเก็บไว้ในตู้สำหรับสารไวไฟ

• ควรเก็บสารเคมีชนิดนี้ให้ห่างจากสารออกซิไดซ์ที่สามารถทำปฏิกิริยาจนเกิดความร้อนหรือระเบิดได้

• ต้องมีป้ายห้ามสูบบุหรี่หรือก่อประกายไฟติดไว้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ไร้ระบบความปลอดภัยเคมี ปมปัญหาอุบัติภัยสารเคมีซ้ำซากที่ท่าเรือแหลมฉบัง

• ไซยาไนด์ สารเคมีอันตรายถึงชีวิต มีพิษสูง ละลายน้ำได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว

• 17 แหล่งน้ำทั่วประเทศ ไม่ควรใช้เล่นสงกรานต์ 2566 แบคทีเรีย พยาธิ สารเคมีอื้อ

 

 

2. สารเคมีที่เข้ากันไม่ได้ เป็นสารเคมีที่จะไม่ก่ออันตรายใดๆ ถ้าไม่มีสารหรือสิ่งใดเข้ามาทำปฏิกิริยากับมัน แต่ถ้าหากเข้าใกล้ความร้อน ก็จะเกิดระเบิดหรือสารพิษได้

วิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้

• ควรแยกพื้นที่จัดเก็บออกจากกันอย่างชัดเจน

• ควรเตรียมเครื่องดับเพลิง Class D เอาไว้ในกรณีเกิดเพลิงไหม้จาก Oxidizers

• เก็บให้ห่างเชื้อเพลิงและวัตถุติดไฟ

• เก็บห่างจาก reducing agents เช่น zinc, alkaline metal และ formic acid เป็นต้น

3. สารเคมีที่เป็นพิษ คือ สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งหมายรวมถึงสารกัมมันตภาพรังสีด้วย

วิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้

• ควรใส่ไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด และควรให้ห่างจากแหล่งติดไฟ

• ควรมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งตัวภาชนะและบริเวณโดยรอบ

• สำหรับสารที่ไวต่อแสง ควรเก็บไว้ในที่เก็บที่มีสีชา และอยู่ในพื้นที่แห้ง เย็น และมืด

4. สารเคมีกัดกร่อน เป็นสารเคมีที่เป็นกรด หรือด่าง ซึ่งสามารถทำลายบรรจุภัณฑ์ได้เลยทีเดียว จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

วิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้

• หากเป็นสารเคมีที่เป็นด่าง ควรเก็บแยกจากสารที่เป็นกรด 

• หากเป็นสารเคมีที่เป็นกรด ควรเก็บแยกจากสารที่สามารถทำปฏิกิริยาได้

• เก็บไว้ในที่เย็น และต้องสูงกว่าจุดเยือกแข็ง

• ก่อนใช้งานสารเคมีเหล่านี้ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ

5. สารเคมีที่ระเบิดได้ คือสารที่ไวต่อปัจจัยหลายๆ และสามารถระเบิดได้ในที่สุด

วิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้

• ควรเก็บให้ห่างขากสารเคมีอื่น ๆ และต้องล้อคอย่างแน่นหนา

• ไม่ควรเก็บในที่ที่มีเชื้อเพลิง และต้องห่างสารไวไฟอย่างน้อย 20 ฟุต

• ไม่ควรมีชนวนระเบิด รวมถึงสารและเครื่องมืออื่น ๆ บริเวณเดียวกันนั้น

• ไม่ควรซ้อนกันเกิน 6 ฟุต และต้องเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวัง

• ห้ามไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปในที่เก็บสารเคมีประเภทนี้เด็ดขาด

 การจัดเก็บสารเคมีเหล่านี้ หากไม่สามารถเก็บได้อย่างถูกต้อง แล้วมันจะนำพามาซึ่งความสูญเสียของทรัพย์สิน ตลอดจนชีวิตของผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับสารเคมีเลยทีเดียว ดังนั้น ในการจัดเก็บสารเคมี ผู้ใช้งานควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลา รวมไปถึงการตรวจเช็คสถานที่ที่ใช้เก็บสารเคมีพวกนี้ เพื่อป้องกันการรั่วไหลที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้นั่นเอง

 นอกจากนี้ สถานที่ที่ใช้เก็บสารเคมี ควรมีการระบุชื่อไว้ที่ป้ายอย่างชัดเจน ผนังกำแพงรอบด้านควรทนไฟและภายในควรเป็นพื้นที่แห้งและเย็น อากาศถ่ายเทได้ดี แต่แดดต้องไม่ส่องถึงสารเคมี ควรมีการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่ควรวางขวดบนพื้นโดยตรง หรือวางไว้ใกล้ประตูและหน้าต่าง หากเป็นสารเคมีที่มีขนาดใหญ่  ไม่ควรเก็บไว้ในที่สูงและต้องสะอาดอยู่เสมอ ควรเรียงสารจากวันหมดอายุ ถ้าหากมีสารเคมีตัวใดที่หมดอายุ ต้องรีบทำลายทิ้งโดยทันที และควรมีอุปกรณ์ดังเพลิง อุปกรณ์ป้องกันภัย ชุดป้องกันสารเคมี และ ชุดปฐมพยาบาลพร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอีกด้วย

 ดังนั้นการจัดเก็บสารเคมี จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการใช้สารเคมีในทางอุตสาหกรรมหรือวิทยาศาสตร์ เพราะหากไม่มีการจัดเก็บสารเคมี ก็อาจจะทำให้สารเคมีทำปฏิกิริยา และนำความอันตรายมาถึงแก่ชีวิตของพวกเราได้ เพราะฉะนั้นการรู้จักวิธีการจัดเก็บสารเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ที่มา : เซฟสิริสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยฯ 

related