สงกรานต์ 2566 ช่วงวันหยุดยาวและเป็นช่วงหน้าร้อนที่มีอุณหภูมิสูงซึ่งมักเกิดอุบัติภัยสารเคมีเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงมีการเตือนสถานประกอบการระมัดระวังเข้มงวดด้านความปลอดภัย การจัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายให้ถูกหลักวิชาการ พร้อมดูแลระบบเตือนภัยให้ใช้งานเป็นปกติ
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน สถานประกอบการต่างๆ หยุดทำการหรือลดการผลิตเพื่อให้พนักงานกลับภูมิลำเนา ประกอบกับเป็นช่วงฤดูร้อนมักเกิดอุบัติภัยสารเคมีเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น สารเคมีหกรั่วไหลจากโรงงานทีใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น รวมทั้งเกิดไฟไหม้โรงงานหรือคลังจัดเก็บสารเคมี ไฟไหม้บริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย รถบรรทุกสารเคมีและวัตถุอันตรายพลิกคว่ำ การระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ และการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตรายในพื้นที่สาธารณะ ได้แก่ บ่อดิน เหมืองร้าง พื้นที่ข้างถนนหรือจุดพักรถ แหล่งน้ำสาธารณะ และพื้นที่ลับตาคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม
จากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีปี 2565 พบจำนวน 33 ครั้ง ได้แก่ ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 22 ครั้ง การขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตราย จำนวน 8 ครั้ง และประเภทอื่นๆ เช่น เพลิงไหม้บ่อขยะ จำนวน 3 ครั้ง
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
เตือน ! ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำรับมือภัยแล้ง แนะ 10 วิธีข้อควรปฏิบัติให้รอด
เปิด 5 มาตรการรับมือภัยหลัง หลังคาดการณ์ปี2566 ฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
กรมชลประทาน งัดแผนคุมเข้มใช้น้ำ ก่อนสิ้นฤดูแล้ง ยันน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2566 มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษจัดเตรียมทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์การตรวจวิเคราะห์มลพิษในภาคสนาม และห้องปฏิบัติการสิ่งแวดล้อม ณ ที่ตั้งกรมควบคุมมลพิษ ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1-16 ร่วมปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นในการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและให้คำแนะนำทางวิชาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์
กรมควบคุมมลพิษ จัดเตรียมความพร้อมของเครื่องมือและบุคลากรของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว และขอความร่วมมือส่วนราชการ เครือข่ายหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และสถานประกอบการต่างๆ ในการจัดเตรียมบุคลากรในการดูแลพื้นที่ เข้มงวดด้านความปลอดภัย และระมัดระวังในการขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตราย การจัดเก็บ สารเคมีและวัตถุอันตรายให้ถูกหลักวิชาการ ดูแลระบบเตือนภัยและการดับเพลิงให้ใช้งานเป็นปกติเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานท้องถิ่นหรือประชาชนผู้พบเหตุสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านทางสายด่วนมลพิษ 1650