svasdssvasds

สรุปให้ ชูวิทย์แฉ เศรษฐาเอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดิน แต่เสี่ยนิดฟาดกลับ

สรุปให้ ชูวิทย์แฉ เศรษฐาเอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดิน แต่เสี่ยนิดฟาดกลับ

สรุปให้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉ อ้าง “เศรษฐา ทวีสิน” มีเอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดินทองหล่อ , ขณะที่ เศรษฐา สวนกลับ สั่งฝ่าย กฎหมาย เอาผิดเรื่องบิดเบือน พร้อมสู้จนถึงที่สุด

เรื่องราวที่ออกมาจากปากของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอๆ ในช่วงทีผ่านมา และล่าสุด เขาได้เดินเกม "แฉเพื่อชาติ" อ้าง “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย มี เอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดินทองหล่อ

โดยในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา "เฮียชู" หรือ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโต๊ะแถลงข่าวอีกครั้ง  ประเด็นสำคัญมุ่งเป้าไปที่นายเศรษฐา ทวีสิน ที่กำลังจะเป็นตัวเต็ง ผู้นำบริหารประเทศคนใหม่ , ชูวิทย์  ลำดับข้อมูล การเปลี่ยนถ่ายที่ดินย่านทองหล่อที่เป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งของ บริษัท แสนสิริ บอกว่าก่อนหน้านี้เป็นที่ดินของบริษัทแห่งหนึ่ง อักษรย่อ อ. ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ซึ่งได้นำที่ดิน 10 โฉนด ไปจำนองไว้กับธนาคาร รวมมูลค่า 465 ล้านบาท 

แต่ในเวลาต่อมา เริ่มมีการใช้นอมินี ที่เมื่อตรวจสอบชื่อแล้วมีอาชีพเป็นแม่บ้าน - รปภ. ใช้เงิน 565 ล้านบาท มาซื้อหุ้นบริษัทและปลอดจำนองที่ดินผืนนี้ โดยเงินที่ใช้มาจากการกู้เงินบริษัทลูกของแสนสิริ ที่มีนาย “เศรษฐา” เป็นกรรมการ และมี บริษัท แสนสิริ ถือ หุ้นอยู่ 99.998 เปอร์เซ็นต์ อนุมัติให้กู้ 1,000 ล้านบาท 

สรุปให้ ชูวิทย์แฉ อ้าง “เศรษฐา” มีเอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดินทองหล่อ , ขณะที่ เศรษฐา สวนกลับ สั่งฝ่าย กฎหมาย เอาผิดเรื่องบิดเบือน พร้อมสู้จนถึงที่สุด
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยนิติกรรมทั้งหมด ทั้งการให้กู้ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท และการปลอดจำนองที่ดินจากธนาคาร เกิดขึ้นในวันเดียวกัน คือ 11 กุมภาพันธ์ 2558 

ก่อนที่ต่อมา วันที่ 14 กันยายน 2559 บริษัท แสนสิริ จะซื้อที่ดินแปลงนี้ต่อในราคา 957.55 ล้านบาท และใช้ที่ดินจำนวน 9 โฉนด สร้างคอนโดมิเนียม ส่วนอีก 1 โฉนด เก็บไว้เก็งกำไร ทำให้นายชูวิทย์ เชื่อว่า เป็นการปั่นราคาที่ดินให้แพงขึ้น เพื่อเอาส่วนต่างเข้ากระเป๋าตัวเอง 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐา ทวีสิน ได้ใช้ โซเชียลมีเดีย อย่าง ทวิตเตอร์ หรือ X ตอบโต้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยระบุว่า โดยสรุปก็คือ สั่งฝ่าย กฎหมาย เอาผิดเรื่องบิดเบือน พร้อมสู้จนถึงที่สุด

สรุป ชูวิทย์แฉ อ้างเศรษฐาเอี่ยวใช้นอมินี ปั่นราคาที่ดิน แต่เสี่ยนิดฟาดกลับ  

 

"ที่ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ เติบโตมาจนมีทรัพย์สินรวมเกือบ 130,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ จากทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมทั่วไป น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทแสนสิริได้ถูกบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล  

การตรวจสอบจากทุกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารบริษัทฯ ที่ดินแปลงสารสินซื้อมาตามราคาตลาดที่เหมาะสม ส่วนที่ดินแปลงทองหล่อซื้อมาในราคา ตารางวาละ 1,100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดตามปกติในขณะนั้น

การกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน การที่ฝ่ายกฎหมายของบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและพึงกระทำ แต่การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"

เรื่องราวของการแฉเพื่อชาติครั้งนี้ จะเป็นการ หย่อนระเบิดเวลา ก่อนที่ เศรษฐา ทวีสิน จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้จะมี ผลกระทบ มากแค่ไหน คงต้องติดตามกันต่อไป ... หรือจะเป็นเพียง พลุที่ถูกจุดประกาย แสงวูบวาบ เพียงชั่วครู่ วาบเดียว ... คงต้องเฝ้าติดตามกันต่อไป

related