สรุปให้ม้วนเดียวจบ! "นางสาวแอม" วางยาเท้าแชร์ดับ พบขวดไซยาไนด์ และสารในตัวเหยื่อ ญาติโร่แจ้งผวาตายปริศนา 6-10 ศพ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจจับ นางสาวแอม แล้วพร้อมแจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" คุมตัวสอบสวนกองปราบปราม
จากกรณีคดีที่สังคมกำลังจับตามองของ น้องก้อย หรือ นางสาวก้อย วัย 32 ปี วูบเสียชีวิตขณะทำบุญปล่อยปลา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ช่วงสงกรานต์ 2566 ที่ผ่านมา หลังเธอเดินทางไป กับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อแอม แต่เหตุที่ชวนสงสัยคือหญิงที่ไปด้วยนั้นไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ แถมขับรถหนี จึงกลายปลายคำถามคาใจของคนในสังคมที่ติดตามข่าวนี้
กระทั่งมีญาติผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันหลายคดี เข้ามาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับตำรวจ ว่า ก่อนตาย ทุกคนไปทำบุญร่วมกับนางสาวแอม ภรรยาของพันตำรวจโทคนหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี และทุกคดี มีทรัพย์สินที่หายไป มาเกี่ยวข้อง
ญาติเหยื่อปี 65 เริ่มสงสัยการเสียชีวิต
สามีและลูกสาวของนางกรรณิการ์ หรือ เอ้ะ (ผู้เสียชีวิต) อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต เมื่อเดือนกันยายนปี 2565 ในลักษณะคล้ายกับ ก้อย ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 หลังแม่ขับรถออกไปจากบ้านที่กรุงเทพมหานคร ก่อนไปนัดเจอกันกับ “นางสาวแอม” ที่ จ.ราชบุรี และได้เปลี่ยนรถกัน ซึ่งแม่มานั่งรถของ “นางสาวแอม แล้วก็ไปเป็นลมเสียชีวิตอยู่ที่ปั๊ม ปตท. โพธาราม
ตอนแรกญาติไม่ติดสาเหตุการเสียชีวิตเพราะเข้าใจว่าเป็นการหมดสติธรรมดา จนกระทั่งเรื่องนี้แดงขึ้น
ญาติตำรวจหญิงรายหนึ่งเล่าเหตุการ เมื่อ 1 เม.ย. 66
โดยญาติของ พ.ต.ต.หญิง รายหนึ่ง หรือสารวัตรปู ที่เสียชีวิต เปิดเผยรายละเอียดว่า ญาติของตัวเองได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์แจ้งแต่ผลชันสูตรเบื้องต้น โดยญาติของตนรู้จัก นางสาวแอม ผ่านทางเพื่อนแนะนำให้รู้จัก เนื่องจากเป็นภรรยาของตำรวจท่านหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
รู้แต่เพียงว่า พี่สาวหมดสติ ที่บริเวณพระปฐมเจดีย์ ได้เบาะแสจากชาวบ้านว่า มาไหว้พระกับเพื่อน แต่ไม่ทันได้ไหว้ พี่สาวเกิดอาการชักเกร็ง หมดสติ มูลนิธินำตัวส่งรพ. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนั้นพี่สาวมีเงินสดติดตัวไปด้วย แสนกว่าบาท โดยเงินจำนวนนี้หลังเกิดเหตุไม่รู้สูญหายไปไหน ไม่มีใครรู้
เบาะแสจากเพื่อนของผู้เสียชีวิตอีกราย
ขณะที่มีเบาะแสจากเพื่อนของผู้เสียชีวิตอีกราย จากการสอบถาม ระบุว่า เพื่อนของตนเป็นเพื่อนชายคนสนิทของนางสาวแอม และมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน โดยเพื่อนของตนมีอาชีพ เปิดโต๊ะเงินกู้ที่ จ.อุดรธานี ตลอดเวลาที่คบหากัน น.ส.แอม มักจะเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นประจำ
วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปรากฎว่า นางสาวแอม ได้เดินทางไปหาเพื่อนที่บ้าน จากนั้นพบว่าเพื่อนของตนมีอาการหายใจไม่ออก เลือดออกปากและจมูกเสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นทางนางสาวแอม ไม่ให้ชันสูตรศพ พร้อมกับลงความเห็นว่าไม่ติดใจการตาย โดยแสดงฐานะว่าเป็นภรรยา ก่อนนำศพส่งบ้านโป่ง ราชบุรี เพื่อประกอบพิธีกรรม
อย่างไรก็ตามแพทย์นิติเวชฯได้ทำการผ่าพิสูจน์และเก็บตัวอย่างเลือดจากศพ น้องก้อย ไปตรวจอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยคาดว่าอีก 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทาง รพ.ราชบุรีได้ส่งตัวอย่างเลือดที่เก็บจากร่างน้องก้อยตั้งแต่วันเกิดเหตุพร้อมผลชันสูตรของแพทย์ที่ รพ.ราชบุรี ส่งมาให้แพทย์นิติเวช เบื้องต้นพบว่าในเลือดมีสารกลุ่มไซยาไนด์ ซึ่งสารดังกล่าวไม่ได้เป็นสารที่ใช้ทางการแพทย์ และไม่ควรจะพบในคน เนื่องจากเป็นสารอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งการพบสารดังกล่าวยังไม่ได้ระบุว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใดหรือเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ ซึ่งทางรพ.ตำรวจจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในลักษณะคล้ายกันกับที่ผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนวางยาหรือไม่ มีรายงานว่าอาจจะต้องมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้เสียชีวิตทั้งหมดว่าส่งไปตรวจชันสูตรในพื้นที่ไหนหรือที่ รพ.ตำรวจหรือไม่ จะต้องมีการตรวจสอบย้อนหลังว่ามีกรณีคล้ายกันจริงหรือไม่เพื่อให้ทราบความชัดเจน
เบื้องต้นพบว่าในอดีตมีผู้เสียชีวิตจากการฆาตกรรมโดยใช้สารกลุ่มไซยาไนด์ถึง 2 รายที่ส่งมาให้ รพ.ตำรวจ ผ่าพิสูจน์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
ตำรวจได้เข้าจับกุมนางสาวแอม
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม นางสาว สรารัตน์ หรือ นางสาวแอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง ขวดไซยาไนด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า น.ส.สรารัตน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร จริง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นางสรารัตน์ ได้ที่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม.
จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าเชื่อว่า นางสรารัตน์ น่าจะเป็นผู้นำไซยาไนด์( Cyanide ) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย ผสมใส่อาหารให้ผู้ตายรับประทาน เพื่อหวังลักทรัพย์สินมีค่าต่างๆของผู้ตาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำยังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
ทนาย นางสาวแอม ร้องขอความเป็นธรรม
ขณะที่ เวลาประมาณ 10.40 น. (ก่อนการจับกุม) ทนายความของนางสาวแอม ให้ข้อมูลว่า ข่าวที่ออกมาค่อนข้างแรงหลังจากที่ตนเองได้สอบข้อเท็จจริงกับลูกความแล้ว ก็ได้ห้ามไม่ให้ลูกความให้ข้อมูลและให้เงียบไปก่อนเพื่อดูท่าที และให้ฟ้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่ว่านางสาวแอมได้ลงไปช่วยก้อยหรือไม่หลังจากก้อย เป็นลมนั้น ทนายความยืนยันว่า ได้ลงไปช่วย โดยนางสาวแอม ตั้งครรภ์อยู่ ทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก ภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า เดินๆหยุดๆ แต่ก็ได้ลงไปด้านล่างด้วยและไปตามคนมาช่วยด้วย และที่กล่าวหาว่า แอม โยนของทิ้งนั้นไม่จริง เพราะที่ถือไปในมือคือดอกไม้และถึงปลา
ส่วนเรื่องทรัพย์สินของก้อยที่หายไป ขอใหเป็นรายละเอียดในสำนวนที่ แอมให้การกับตำรวจไว้แล้ว แต่ยืนยันได้ว่า แอม ไม่ได้ทำจริง และหลังจากนี้จะหาพยานมาต่อสู้คดีเพื่อหักล้างกับพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ
นักข่าวก็ถามอีกว่า มีหลายเคสที่เริ่มปรากฎอแกมาว่า แอม มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ทนายความระบุว่า ก็ได้ถามลูกความด้วยเช่นกันแต่แอมไม่ได้ตอบอะไรมาก เพราะทนายความทำคดีที่เกี่ยวกับ ก้อย แตาก็ต้องดูสำนวนของพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิของจำเลยที่จะให้การอย่างไรก็ได้
หลังจากเกิดกระแสข่าว(ก่อนจับกุม) ทนายบอกว่า นางสาวแอมเครียด ความดันขึ้น
ทนายความยังชี้แจงอีกว่า แอม ได้หย่ากับสามี ที่เป็นนองผู้กำกับ ประมาณปี2564 ก็ประมาณ2ปีแล้ว ซึ่งมีเอกสารทะเบียนหย่าชัดเจน แต่ที่ยังเข้าไปที่บ้านพักก็เพราะมีลูกที่ต้องดูแลด้วยกัน หลังจากหย่ากับสามีที่เป็นตำรวจ ก็ได้ไปคบหากับ แด้ หรือ นายสุทธิศีกดิ์ พูนขวัญ ซึ่งเป็นชาวอุดรธานี แต่ไท่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และต่อมา นายสุทธิศักดิ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2566