ดิว อริสรา ร้องไห้เปิดใจครั้งแรก ปมหนี้ 62 ล้าน รับใช้เงินเกินตัว

จากกรณีที่ มาดามเมนี่ หรือ ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจพันล้าน ได้มาออกรายการ โหนกระแส เปิดใจระบุชี้ชัดเป็น ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ นักแสดงสาวชื่อดัง ได้ขอยืมแบรนด์เนมหรู ทั้งนาฬิกา เครื่องประดับ กระเป๋า ตีเป็นมูลค่ารวม 62 ล้านบาท และไม่คืนตามที่กำหนดไว้ จนกลายเป็นประเด็นร้อน

มาดามเมนี่ เล่าว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ได้รู้จักกับ ดิว อริสรา จากรุ่นน้องที่เป็นลูกค้ากัน เขาบอกว่า ดิว อยากจะผลิตสินค้ากับโรงงาน เป็นสินค้าเด็ก ตอนเขามาทำ เขาบอกเขาทำคนเดียว แต่ภายหลังทราบว่าเขามีพาร์ตเนอร์ ซึ่งพาร์ทเนอร์ลงทุนทำธุรกิจ 100% คนเดียว ไม่ใช่เงินของดิว ทางธุรกิจในตอนนั้นเขาเอาเงินมาจ่ายโรงงานเป็นการรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของเขา มัดจำมา 22 ล้าน โอนมา 2 ครั้งในนามบริษัท

จุดเริ่มต้น มาจากวันที่ 6 ส.ค. 2567 ดิวโทรไลน์มาบอกว่าเขาเดือนร้อนจากการเป็นหนี้ ซุง 20 ล้าน ถ้าไม่คืนจะโดนแฉ เมย์ถามกลับ ไม่คุยกับสามีล่ะ แล้วของดิวไม่มีเหรอ เงินดิวไม่มีเหรอ เขาบอกว่าเขาอยากจะมาขอยืมเงินมัดจำโรงงาน 22 ล้านออกมาก่อนเพื่อไปใช้หนี้ ขอยืมแค่ 20 วัน ซึ่งในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้เลย ในการทำงานระบบบริษัท
 

 

พอเป็นไปไม่ได้ ดิว เลยเอ่ยปาก “พี่เมย์พอมีให้หนูยืม? หนูยืมแค่ 20 วัน“ ในตอนนั้นเมย์มีปณิธานจะไม่ให้ใครยืมเงิน เพราะเราโดนมาเยอะ เขาก็เลยพูดขึ้นว่า ”พี่เมย์มีอย่างอื่นให้ยืม?“ เมย์ถามกลับไปอีกครั้ง รถ บ้าน ของดิวล่ะ ทำไมไม่ไปเอากับสามี 

ดิวบอกเมย์มาว่าเรื่องนี้เซปรู้ไม่ได้ เดี๋ยวมีปัญหาครอบครัว ตอนนั้นน้องท้องลูกคนที่ 2 อยู่ แล้วเป็นโควิด เขาเครียดมาก เขาจะแท้ง คือมันมีหลายปัจจัยมาก เรามองว่าถ้าเราให้ยืมของไปก็คิดว่าน่าจะได้คืน ของในมูลค่าที่เขาจะไปแก้ปัญหา 20 ล้าน

โดยหนุ่ม กรรชัย ได้มีการต่อสายตรงเพื่อพูดคุยกับ ดิว อริสรา ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น 

• ดิวขอโทษพี่เมย์ที่ทำให้ต้องมานั่งออกรายการ จากที่คุยกันตลอด ดิวรู้ว่าเป็นสิ่งที่พี่เมย์ไม่อยากทำ
• ทั้งหมดที่พี่เมย์พูด ดิวไม่ขอตอบโต้อะไร ขอยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวดิวเอง และขอโทษพี่เมย์และทุกคนต้องมาเดือดร้อนอะไรกันแบบนี้
• ดิวยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงอะไร เพราะพี่เมย์เป็นคนเดียวที่ช่วยดิวในเวลานั้น รายละเอียดที่พี่เมย์พูด มันเป็นเรื่องจริงที่ดิวไปขอความช่วยเหลือ
• ตอนแรกที่ดิวขอไป ทางหุ้นส่วนดิวเป็นคนออกความคิดเห็นให้ ให้ดิวไปคุยแบบนั้น ในการที่จะขอแบบนั้น ไม่ใช่ว่าหุ้นส่วนไม่รู้ แต่หุ้นส่วนรู้ เป็นคนบอกให้ไปลองคุยแบบนั้น
• หลังจากที่ตนไปพูด พี่เมย์ก็พยายามช่วยจริงๆ เป็นการที่พี่ช่วยน้องจริงๆ เขาพูดว่า แกคือน้องฉัน เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ

(ตอนนี้ของอยู่ที่ไหน) ตอนนี้ของยังอยู่ครบ หนูว่าพี่ทนายน่าจะเข้าใจหนูผิด หนูไม่เคยมีเจตนาที่ไม่บอกว่าของอยู่ที่ไหน หนูเข้าใจว่าหนูกับพี่เมย์ว่าจะหาทางออก ที่หนูไม่ออกมาพูดเพราะเราคุยกันตลอด ตอนนั้นในใจหนูยังขอบคุณตลอด หนูไม่มีความจำเป็นต้องปิด ตอนนั้นที่คุยกันหนูพูดจากใจบางทีมองหนูเลวร้าย แต่สิ่งที่ดิวจะทำ ไม่ได้พยายามทำให้ตัวเองถูก สิ่งที่ผิดวัตถุประสงค์หนูไม่ได้มีเจตนา เพราะหนูเข้าใจว่าต้องแก้ไขปัญหาจริงๆ 

เมย์ : พี่เคยคุยกับดิวว่า พี่มั่นใจว่าดิวจะเอาของมาคืน ดิวไม่สามารถหาคนแบบนี้ได้ พี่พูดตรงๆนะ พี่เสียใจ พี่จมอยู่ตรงนั้น แกทำได้ยังไง แกไม่เห็นหัวใจพี่ แกดิสเครดิตพี่ แกทำได้ไง มันคือฟางเส้นสุดท้าย ทุกอย่างที่พี่ช่วยดิว พี่ฟังดิวมาตลอด พี่โดนหลอกใช่ไหม พี่ลบมันออกไปไม่ได้ พี่ทำธุรกิจมาขนาดนี้ พี่เห็นแชทจริงๆ เงินของพี่ก็อยากได้ และพี่ก็อยากได้ศักดิ์ศรีของพี่คืน 

ดิว : ดิวไม่รู้ว่าเป็นแชทไหน เคยขอพี่ดูด้วยซ้ำ กับใครดิวก็นึกไม่ออก เรื่องสร้อยดิวไม่เคยส่งให้ใครที่เป็นผู้หญิง ดิวยังเคยถามพี่คนนั้นว่าดิวพูดเหรอ เขาบอกว่าไม่ใช่ พี่ไม่ต้องเชื่อดิวก็ได้ แต่ดิว งง ดิวรู้ตัวว่าดิวคุย 10 คน ดิวจะกล้าไปคุยแบบนั้นจริงๆ เหรอ ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไงดิวยอมรับกับมัน ดิวก็พยายามแก้ไขปัญาให้ดีที่สุด ดิวไม่เคยซื้อเวลา ที่พูดว่าจะได้แล้วนะ หนูมีความหวังทุกครั้ง เวลามีคนบอกว่าจะช่วยหนู แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นแบบนั้น 

กับ "ซุง ศตาวิน" เคลียร์จบไปแล้ว ที่ยังค้างอยู่คือดอกเบี้ย ของซุง 12.5 ล้าน ของรุ่นพี่ 7 ล้าน ก็จะประมาณ 20 ล้าน ของซุงมีสลิปโอนเงิน ที่เขามาตามคือตามดอกเบี้ย ตอนแรกขอยืม 7 วัน เพราะดิวรู้ว่าเงินดิวจะมา แต่พอ 7 วันดิวทำไม่ได้ เลยไปขอรุ่นพี่ให้ช่วยดิว ก็เลยกลายเป็น 1 เดือน แต่ดอกเบี้ยที่คุยไว้ตอนนั้นคือ 12.5 ล้าน ดอก 10%

ติดหนี้อยู่เท่าไหร่

ก็มีกับพี่เมย์ กับรุ่นพี่อีกประมาณล้านกว่าบาทที่ยังไม่คืน กับคนอื่นๆ หรืออะไรใดๆ มันเป็นการลงทุน ซึ่งดิวมีหลักฐาน แต่วันนี้ขอคุยเรื่องพี่เมย์ก่อน 

เรื่องที่เกิดขึ้น ปรึกษาสามีหรือไม่

ไม่ได้ปรึกษา เพราะเขาไม่ได้มานั่งรับรู้ด้วย ในมุมหนูมันก็มีแค่ตัวหนู หนูเป็นคนก่อปัญหาก็ต้องจัดการปัญหา ตอนนี้เขารู้แล้ว ซึ่งครอบครัวเขาก็มีระบบ ซึ่งหนูต้องดิ้นรนตัวเอง ขอสามีให้รักและดูแลลูกอย่างดี คือดิวจะไปขอให้ใครรักดิว และดูแลดิวได้ยังไง มันก็เป็นแบบนี้ เราต้องยอมรับ หนูจะไม่พูดว่าเอาเงินมาให้หนูเถอะ เอาเงินมาช่วยหนูเถอะ สิ่งที่เราคาดหวังอยากให้เขารักลูก และดูแลลูกให้ดี 

หลังจากนี้ก็พยายามแก้ไข ก็มีพี่ๆอยากจะช่วย ตอนแรกที่คุยกับพี่เมย์ให้ดิวยอมรับสภาพนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนอาญาเป็นแพ่ง เพราะหนูไม่รู้เรื่องพวกนี้ หนูแค่อยากให้เขาได้ของคืน หนูกลัวของเขาจะหลุดไป หนูสาบานว่าหนูไม่โกงพี่ด้วยชีวิตหนู ชีวิตลูกหนู ชีวิตครอบครัวหนู ดิวยังไงก็ได้ขอให้ทุกคนตกลงกันได้

ถ้าวันนี้จะถูกดำเนินคดี รู้สึกอย่างไร

ดิวโอเค ถ้าร้านเขาโอเค ร้านนาฬิกายังคุยกับหนูเมื่อคืน เขาบอกว่าพี่เมย์บอกว่าจะให้ร้านรับสภาพหนี้กับเขา และจะเอาของออกจากร้าน ตัวดิวยังไงก็ได้ ถ้าทุกคนตกลงกันได้ เพราะดิวต้องแก้ปัญหา (แต่ดิวต้องเป็นหนี้ร้านดิวโอเคไหม?) โอเคค่ะ เข้าใจค่ะ แต่หนูมีความผิดจริง 100% ใช่ไหมคะ สุดท้ายตัดสินยังไง พี่ก็ทำเต็มที่ หนูก็ต้องทำเต็มที่

เมย์ : ถ้าเซ็นยอมรับสภาพหนี้ได้พี่ก็จบ ถ้าพูดตรงๆ ณ วันนี้ไม่มีใครอยากจะควักเงินตัวเองออกมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะร้าน หรือเมย์ แต่คิดว่าสิ่งที่ทำ ณ วันนี้ดีที่สุดแล้ว ถ้าสุดท้ายต้องควักเงินเพื่อเอาของออกมาทำไม่ได้จริงๆ 

ดิว : แล้วตอนนี้หนูเป็นโจรแล้วเหรอพี่ 

ทนาย : บอกได้ไหมของ 5 ชิ้นอยู่ไหน?

ดิว : บอกได้ค่ะ แต่ได้เหรอคะต่อหน้าทุกคน (บอกหลังไมค์ได้ค่ะ) เพราะดิวตั้งใจส่งคอนแทคให้พี่ทนายอยู่แล้ว 

(ของ 1 ชิ้น อยู่กับรัฐมนตรีจริงไหม?) ของชิ้นนึงผ่านผู้ใหญ่ไป ผู้ใหญ่คนนั้นน่าจะไปฝากที่รัฐมนตรี ประสานไปได้ค่ะ เขาน่าจะพร้อมจัดการใดๆ 

(ตอนนี้ดิวอยู่ไหน?) ตอนนี้หนูอยู่ไต้หวัน แต่พรุ่งนี้จะให้ทนายไปยื่นเรื่องที่กองปราบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้าเท้าเหยียบไทยเมื่อไหร่หนูจะเข้าไปชี้แจงด้วยตัวเอง 

สุดท้ายหนูขอโทษพี่เมย์ และจะรับผิดชอบให้ดีที่สุด (ร้องไห้) คือมันเสียไปแล้ว ก็พยายามดิ้นรนอยู่ ตอนนี้เหมือนไม่มีอากาศ ไม่รู้ว่าจะจบลงยังไง ขอโทษพี่เมย์จริงๆ ยังรักพี่เหมือนเดิม 

สังคมจับตามอง คนที่รักดิว ดิวขอโทษที่ทำอะไรไม่คิด จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คนที่ซ้ำเติมดิวขออย่าไปพาดพิงถึงครอบครัวหนู ลูกและสามี อย่าไปอะไรกับลูกดิว เด็กๆไม่เกี่ยวอะไรด้วย ดิวขอจริงๆ ถ้าจะทำอะไรขอให้มาลงที่ดิว ดิวไม่ปิดคอมเมนต์มาลงที่ดิวได้เลย

สุดท้ายแล้วดิวจะต่อสู้ในมุมขอดิวให้ดีที่สุด แต่หนูไม่ได้อยากสู้กับพี่เมย์นะ ขอให้สังคมดูดิวเป็นตัวอย่างที่ไม่ประมาณตัวเอง ชีวิตคนเราก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดว่าจะสวยหรู วันนี้หนูก็ลงมาสุดแล้ว หนูขอความเห็นใจ และขอโอกาสด้วยค่ะ 

ล่าสุด THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับ ปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ประกาศยุติการทำงานร่วมกับ ดิว อริสรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

ที่มา : คมชัดลึก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ดิว อริสรา อึ้งไปเลย น้องไซลาส วัย 9 เดือน พูดตอบโต้ชัดมาก
• ดิว อริสรา รู้สึกปลดล็อกบาดแผลในใจ เชื่อมั่นในความยุติธรรม-กฎแห่งกรรม
• ชมพู่ อารยา เป็นห่วงแผลใจ ดิว อริสรา บอกไม่รู้เรื่องโดนทำร้ายร่างกายมาก่อน