ฟังหลักคิดหลักบริหารจากซีอีโอ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ผู้นำพา บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 1,000 ล้าน ด้วยความมั่นใจอนาคตธุรกิจ MGI ไม่ขาดทุน ไม่ล้มละลาย ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ
(14 ธ.ค. 2566) MGI First Trade หรือ การซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือว่า "MGI" ได้สร้างปรากฎการณ์ให้นักลงทุนหลังเปิด IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น "หุ้น MGI" เข้าตลาดหลักทรัพย์วันแรกกระแสหุ้นพุ่งแรง เงินสะพัดกว่า 1,300 ล้านบาท
ตอกย้ำ MGI เป็นธุรกิจการพาณิชย์และเจ้าของเวทีประกวดนางงามเจ้าแรกของโลก และของประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดทุน ด้วยชื่อเวทีที่บริษัทเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทเอง นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าหลักคิดและหลักบริหารของ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริหารอย่างไรให้ธุรกิจ MGI ไม่ขาดทุน ไม่ล้มละลาย ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ
จากความตั้งใจก่อตั้ง บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2013 และคิดต่อยอดจะทำอย่างไรให้บริษัทนางงามซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองข้ามว่าจะมีมูลค่าและจะแตกธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน พร้อมกับอุดรอยรั่วธุรกิจนางงาม สปอนเซอร์น้อย นางงามใช้ประโยชน์ค่อนข้างยาก มูลค่าไม่ได้สูงมากพอที่ผันตัวเองเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
"ผมจึงคิดหาวิธีการที่จะสร้างมูลค่าและก็สร้างเม็ดเงินรายได้ต่อปีให้มันมากขึ้นกว่าคำว่า "นางงาม" จนกระทั่งในปี 2018 จึงได้มีการแต่งตั้ง (FA) ที่ปรึกษาทางการเงินและเดินทางตามเส้นเรื่องที่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในเรื่องของการดูแลทางด้านเกี่ยวข้องกับภาษี เรื่องราวเกี่ยวข้องกับการวางระเบียบทางการเงินและวิธีการหาเงินเข้ามาสู่บริษัท"
หุ้น MGI ขายความต่างเป็นบริษัทนางงามแรกในประเทศไทยและก็ในโลกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยตัวเอง ธุรกิจนางงามจดทะเบียนครั้งแรกก็คือมิสแกรนด์ และอีกจุดแข็งก็คือบริษัท MGI ไม่มีการกู้หนี้ยืมสิน ไม่มีเจ้าหนี้ที่จะต้องชำระดอกเบี้ยนี่เป็นจุดแข็งของบริษัท พูดไปก็เหมือนอวดรวยลองไปดูในข้อมูลงบการเงิน บริษัท MGI มีกระแสเงินสดค่อนข้างเยอะมากไม่มีปัญหาทางด้านสภาพคล่อง และไม่มีหนี้สินต้องชำระดอกเบี้ยและมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เห็นเป็นตัวตนชัดเจนเป็นจุดแข็งที่สำคัญ
บริษัทเราไม่ได้ใหญ่เกิน ถ้าผมเป็นคนลงทุนผมก็อยากลงทุนเพราะว่าบริษัทที่เล็ก ๆ ทุกบริษัทจะต้องมีเส้นทางในการเดินให้มันโต และถ้าพูดถึงเชิงลึกค่า PE (การประเมินมูลค่าหุ้น) ก็ค่อนข้างต่ำ และก็ไม่ได้ขาย IPO ในราคาที่สูง เราจำหน่ายในราคา 4.95 สตางค์ ฉะนั้นต้นทุนต่ำเป็นจุดนึงที่น่าซื้อสมมติอยากจะซื้อ อันนี้ไม่ได้ชวนต้องไปอ่านใน Filing (หนังสือชี้ชวน) เราจะซื้อของซักชิ้นนึงแน่นอนของอยู่ในตลาดเดียวกัน ถ้าต้นทุนต่ำก็น่าซื้อก็น่าสนใจ
"สิ่งที่เราอยากจะให้ทุกคนเข้าใจเราก็คือว่าเราซื่อสัตย์ เราจริงใจ เรามีธรรมภิบาล ราคา IPO ของเราค่อนข้างต่ำถ้าเปรียบเทียบกับ PE (การประเมินมูลค่าหุ้น) และบริษัทเรายังมีภาวะที่จะเติบโตได้ของมันสูงมาก และหลังจากที่เราเทรดวันแรกแล้วเราก็จะไปดูธุรกิจอื่น ๆ ขยายธุรกิจเก่าที่แข็งแรงอยู่แล้วให้มันกว้างขึ้นแล้วเราก็กำลังจะเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ที่มันแตกต่างจากสิ่งเดิมมากขึ้นแต่ว่าเราต้องขออนุญาตมาวิเคราะห์ทุกอย่างจากที่เราเทรดวันแรกก่อน ซึ่งในปีหน้าจะเห็นในหลายๆ โปรเจกต์ของเราจะมีนโยบายจะออกมา"
"มีหลาย ๆ คนบอกว่า MGI อย่าเพิ่งเข้าตลาดเพราะสถานการณ์ไม่ดี สำหรับผมมองว่าเรามีความตั้งใจทำงานมาจนถึงจุดนี้ไม่ใช่การทำงานที่ง่ายๆ เราเคยคิดอยู่บนสโลแกนความพยายามไม่เคยทรยศใครและทุกวิกฤตมันคือโอกาส เราเป็นคนทำงานเราจะรู้มูลค่าจริง ๆ ของจำนวนราคาออก IPO และจำนวนหุ้นทั้งหมด เราจะรู้ว่ามันไม่น่าจะกลายเป็นปัญหาของใคร
ผมมองโลกแง่กลับกัน หลายๆ คนคิดว่าตอนนี้สถานการณ์ไม่ดี หุ้น IPO เข้าแล้วต่ำกว่าจอง แต่ผมก็มั่นใจว่าด้วยความที่มีความพยายามมาก ผมคาดว่าผมอยากจะเอา MGI เป็นรอยยิ้มให้กับทุกๆ คน ผมเป็นคนนึงที่เวลาทำอะไรแล้วจะไม่ค่อยเหมือนตลาด เพราะฉะนั้นถ้าตลาดเป็นแบบนี้ผมก็คาดหวังว่าผมจะไม่เหมือนกับตลาดที่เป็นอยู่ครับ"
สำหรับการประกวดนางงามเป็นเพียงแค่กุศโลบายเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความจำ แต่ถามว่าการประกวดนางงามมันได้เพียงแค่ประมาณ 10% ของรายได้บริษัททั้งหมด สำคัญที่สุดประมาณ 50 % มันคือคอมเมิร์ซของเรา อีกหนึ่งจุดที่เราพยายามตอบโจทย์และพยายามอุดรอยรั่วก็คือว่านำนางงามมาใช้ประโยชน์แบบยาวๆ หรือหากินเป็นศิลปินมันยากมาก ไม่ได้บอกว่านางงามไม่ได้มีประโยชน์
แต่ถามว่าเมื่อเราได้มาแล้วมันไปไหนต่อเราก็เลยมาดูว่าเราจะทำงานต่อเนื่องกับคำว่านางงามมันต้องใช้บุคคลแบบไหนมันก็เลยเป็นการหาที่มาหานางงามที่ลุคแตกต่าง เราก็เลยค่อย ๆ ดัดแปลงจนมาเจอในครบรอบ 10 ปี เราก็ได้ "อิงฟ้า วราหะ" ก็ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ทางด้านคำว่าเอานางงามมาใช้ประโยชน์ระยะยาว เสร็จเรียบร้อยเป็นวงการบันเทิง มากกว่าบันเทิงก็คือสามารถเป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นเซเลบบริตี้ที่เป็นคนที่นำเสนอสินค้าได้มากมายหลากหลายแบรนด์ ก็คือกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าข้ามคำว่านางงามมาจนได้ หลังจากนั้นเราก็มีอีกหลาย ๆ คน
"อีกหนึ่งสิ่งที่เราทำก็คือการจัดอีเวนต์เมื่อเรามีศิลปิน มีเราความมั่นใจ เมื่อเราแปลงสภาพของคำว่าประกวดนางงามได้พอสมควรเราก็เริ่มทำอีเวนต์เยอะขึ้นนั่นจึงเป็นที่มาของ MGI HALL ในการตอบโจทย์ที่ทำอีเวนต์ มันก็เลยกลายเป็นทั้งหมด 3 ส่วนหลัก ๆ ก็คือการประกวดนางงามยังคงเป็นรากฐาน เป็นรากแก้ว ที่ไม่ได้ออกดอกออกผลมากนักแต่ยังมันต้องใช้ชื่อคำนี้ ต่อไปก็คือการจัดการอีเวนต์ และสุดท้ายมันก็ต้องวกกลับมาที่ว่าศิลปินทุกคนผ่านคำว่านางงามเสร็จแล้วกลายเป็นศิลปินเราก็จะมีการดูแลศิลปิน ส่วนที่ 4 ของการจัดการและพาวอลลุ่มทั้งหมดเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์"
เราใช้โซเชียลแพลตฟอร์มในการสร้างรายได้ ผมยอมหันหลังให้กับบางสิ่งหลาย ๆ คนบอกไม่เสียดายหรอหันหลังให้กับทีวี แต่ทำยังไงได้ในเมื่อเรารู้แล้วโลกกำลังเปลี่ยนเราจึงใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญกับพวกเราว่าเราจะใช้มันอย่างไรให้เกิดมูลค่าสูงสุด พอบอกโซเชียลหลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจโดยเฉพาะคนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อาจจะไม่คุ้นชินกับคำว่าโซเชียลก็อาจจะงงว่า MGI ทำมาหากินอะไรมันก็นางงาม นางงามแทบจะไม่ได้นำพาความมั่งคั่งมาสู่ MGI แต่ว่าสิ่งที่เรามีเส้นเรื่องที่เข้มข้นมากก็คือความไฮเทคโนโลยีในการมีเอนจิเนียในการเขียนโปรแกรม
ในวันนี้ MGI เรามีระบบการจำหน่ายตั๋วทั่วโลกไม่ว่าคุณจะซื้อจากประเทศไหนในโลก เราสามารถจำหน่ายตั๋วให้คุณได้ตลอดเวลาและเก็บเงินคุณได้ทันที และต่อให้คุณอยู่ที่ไหนคุณก็เลือกที่นั่งเราได้ นี่คือกลยุทธ์ที่เรามีความรู้สึกว่าเรามีความต่างในการที่เราทำงานแล้วทำให้เราได้ตามเป้าหมายและที่สำคัญมากกว่าเป้าหมายคือเราไม่ต้องแบ่งให้ใคร เพราะว่าการที่เราใช้ Ticket Center ปัจจุบันเขาก็เอา 35% - 40 % ถามจริง ๆ 35%- 40 % จากหนึ่งร้อยเป็นเงินที่เยอะมาก
"มันเป็นผลกำไรที่ดี มันสร้างทำให้ Filing (หนังสือชี้ชวน) เราสวยงาม และก็ทำให้ผลกำไรที่จะส่งต่อถึงคนที่ถือหุ้นได้กำไรมันสำคัญมาก เรายอมที่จะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อจะให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การจัดการของเรา เงิน IPO ทั้งหมดเราก็คงไม่ได้เอาไปใช้วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดสำคัญที่สุดเราเอาไปพัฒนาการทางเทคโนโลยีและก็สารสนเทศเป็นหลักเพราะเราเชื่อว่าการพัฒนาทางแอปพลิเคชัน สารสนเทศและก็เรื่องของอะไรที่ไดเรกต่อสิ่งหนึ่งมาสู่เราตรงไม่ผ่านคนกลางเป็นสิ่งสำคัญ"
MGI คือเวทีประกวดนางงามที่เอานางงามเป็นจุดยืนและเข้าตลาด แต่อีกทีนึงที่กำลังพูดถึงและหลาย ๆ คนก็กำลังจะพูดถึงว่าคล้าย ๆ MGI อันนั้นไม่ใช่ อันนั้นเขาได้นางงามมาเมื่อประมาณ 1 ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาภายในปีนี้มันเกิดขึ้นมานานลองไปอ่านเหตุการณ์ว่าเรื่องของหุ้นกู้มันไม่ได้เกิดขึ้นมา ณ ตอนนี้ มันเกิดขึ้นมา 4-6 ปีไหลมาเรื่อย ๆ และทรัพย์สินของบริษัทของเขาคืออะไรของเราคืออะไรคนละแบบกัน แล้วธุรกิจของเราเป็นธุรกิจคอมเมิร์ซซึ่งเราขายสินค้ามีตัวตนคนละเรื่องกันและเราเน้นขายของก่อนและเราก็เน้นอีเวนต์ถึงจะมาเน้นคำว่านางงาม
"เราไม่เคยมีภาระดอกเบี้ยจากการกู้ใด ๆ แล้วเรามีกระแสเงินสดมากมาย มันมีความแตกต่างกันและรายรับในปัจจุบันที่ยังวิ่งเข้ามาก็คือหมวดคอมเมิร์ซและก็อีเวนต์ จงมองมิสแกรนด์เป็นบริษัทนางงามที่ทำธุรกิจที่หลากหลาย อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าคาแร็กเตอร์ของเราเป็นแบบไหน และเรามีวินัยเรื่องการเงินการธนาคารอย่างไร และก็ต้องเข้าใจบริษัทที่เป็นคู่เทียบที่คนกำลังเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากนางงาม ปัญหาที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหาจากธุรกิจอื่น ๆ เพราะฉะนั้นธุรกิจของผมกับของเขามันคนละธุรกิจกัน แต่บังเอิญทุกคนไปติดกับดักของคำว่าแต่ละคนมีเวทีของตัวเองเท่านั้นเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง