ยิปซี คีรติ แชร์ประสบการณ์ไม่ดี มุ่งมั่นลดน้ำหนัก จนเป็นโรคทางจิต

เป็นดาราสาวที่มีรูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์ม สำหรับนักแสดงสาวแซ่บ "ยิปซี คีรติ" ที่มีวินัยในการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร จนมีหุ่นสุดปัง กลายเป็นไอดอลของสาวๆ ในเรื่องการดูแลรูปร่าง ซึ่งที่ผ่านมาสาวยิปซีก็มักออกมาเผยเคล็ดลับการลดน้ำหนักอยู่บ่อยๆ

ล่าสุดดาราสาว "ยิปซี คีรติ" ได้อัดคลิปแชร์ประสบการณ์ "ลดน้ำหนัก" จนเป็นโรคทางจิต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คน พร้อมระบุข้อความว่า "ขอฝาก ปสก. ของเราไว้ เป็นอีกทางเลือกนึงเพื่อประกอบการตัดสินใจ ของคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนักหรือดูแลตัวเองนะคะ…ถ้ารู้สึกว่าคลิปนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับใคร ฝากแชร์กันนะ" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ยิปซี คีรติ เตือนภัยเงียบ ออกกำลังกายผิดวิธี จนกระดูกสันหลังคด
• ยิปซี คีรติ ตอบชาวเน็ต หลังลงภาพกินพิซซ่า เจอคนแซะกินจริงหรือคอนเทนต์
• ยิปซี คีรติ โดนพิษโควิด ต้องเลื่อนแต่ง นิโคลัส อย่างไม่มีกำหนด

โดยเนื้อหาที่ ยิปซี ออกมาแชร์ประสบการณ์ไดเอทของตัวเอง มีดังนี้

"แชร์ประสบการณ์การไดเอท จนกลายเป็นโรคทางจิตค่ะ คือยิปอ่ะมีทำคลิปนึงไปก่อนหน้านะคะ ซึ่งเนื้อหาในคลิปนั้น ได้มีการเมนชั่นเกี่ยวกับการที่ยิปไม่ชั่งน้ำหนัก ไม่คุมแคล อะไรก็ตามที่เป็นตัวเลขเป๊ะๆ ยิปก็พูดว่ายิปไม่เอา เพราะว่ายิปอ่ะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน ซึ่งวันนี้ยิปก็จะมาพูดขยายความถึงประสบการณ์นั้นนั่นแหละ"

"คือมันเป็นอาการที่เรียกว่า Eating disorder จะมีหลายประเภทมากเลย พวกแบบ Anorexia, Bulimia, Bing eating และเดี๋ยวนี้มันก็คงมีอะไรมาอีกเยอะมาก ประสบการณ์ส่วนตัวของยิป คืออยากจะมาเล่า เพื่อที่จะเรียกว่าให้เป็นทางเลือกในการประกอบการตัดสินใจของคนที่กำลังไดเอท หรือพยายามที่จะดูแลรูปร่างตัวเองอยู่ละกัน"

"สิ่งที่เราเคยทำ คือ งดแป้ง งดแบบงด ไม่ใช่ลดนะคะ งดแบบไม่กินแป้งเลย และก็อดข้าวเย็น ก็คือตั้งกฎนั่นแหละว่าหลัง 6 โมง ฉันจะไม่กินอะไรแล้ว คุมแคล เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นเคยคุมแล้ว หรือแม้กระทั่งมีช่วงหนึ่งย้ายไปอยู่อเมริกา และกลัวมากเพราะว่าแบบของที่อเมริกามีแต่ของอ้วน ชีส พิซซ่า ตอนนั้นก็เลยพยายามกินแต่แอปเปิ้ล ก็ผอมมาก คือป่วยแหละ" 

"ทีนี้ช่วงที่มีอาการทางจิตเป็นยังไง ก็คือเมื่อก่อนยิปจะพยายามอดข้าวเย็น ออกกำลังกายหักโหมแบบหนักๆ คือเรียกได้ว่าเอาแบบเอาอะไรเข้าตัวน้อยที่สุด และก็ออกให้เยอะที่สุด เพื่อที่อยากที่จะชั่งน้ำหนัก ให้ตื่นมาแล้วแบบตัวเลขลดลง"

"สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น คือ จิตเรามันไปจดจ่อเกี่ยวกับว่า 'เฮ้ย วันพรุ่งนี้เช้าที่ฉันจะตื่นขึ้นมาแล้วเหยียบไปบนตาชั่ง เลขจะลดลงมั้ย ถ้าฉันพยายามขนาดนี้' อย่างสมมติวันนี้ฉันอดอาหารแบบอย่างดีอ่ะ พรุ่งนี้มันต้องลดลงสิ แต่ทุกคนเชื่อป่ะ บางทีมันไม่ลด และแย่ไปกว่านั้นคือ บางวันข้าวเย็นก็ไม่ได้กิน แต่ตัวเลขมันเพิ่ม"

"ซึ่งพอมันมาถึงจุดนั้น มันก็เลยกลายเป็นจุดที่เราแบบ คือเรากลายเป็นประสาทอ่ะ กลายเป็นเครียดมาก และด้วยความที่เราเป็นแบบ Perfectionist คือเราอยากที่จะเอาชนะมัน เราก็เลยคิดไปว่า หรือเราต้องลดอาหารเพิ่ม หรือเราต้องออกกำลังกายเพิ่ม คือตอนนั้นมันแบบ Messed up! ไปหมดเลย แล้วก็นั่นแหละ ก็คือเป็นป่วย"

"ทั้งเรื่องของการทำอาหารกินเองทุกมื้อ กินคลีนแบบจัดๆ ช่วงที่ทำอาหารกินเองทานคลีน ก็จะมีปัญหาของการที่เราเข้าสังคมไม่ได้เลย เหมือนเรากลายเป็นคนกลัวอาหารปกติ ซึ่งนั่นมันไม่ใช่ความคิดที่ดีต่อสุขภาพแล้วอ่ะ เพราะคนเรายังต้องใช้ชีวิต ต้องออกไปกินข้าวกับเพื่อน ต้องเข้าสังคมบ้าง"

"คือช่วงนั้นเรากลายเป็นคนไม่อยากเข้าสังคม เวลาเพื่อนนัด เรารู้สึกอึดอัด เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องไปกินอาหารข้างนอกที่มัน Out of my comfort zone ไม่ใช่อาหารที่เรารู้สึกว่าปลอดภัย เพราะเราควบคุมไม่ได้"

"สุดท้ายก็คือ ทำไม่ได้ ก็คือเคยโยโย่ เพราะว่ากินคลีนจัดๆ ด้วยนะ ร่างกายเรามันช็อก เหมือนพอเรากินคลีนสะอาดมากเลยโนโซเดียมอะไรก็ตาม แต่พอกินอาหารปกติแค่ไม่กี่มื้อ...บวม โยโย่ขึ้นมาเลย เราเลยรู้สึกว่า โอเค อะไรก็ตามที่มันเป็นวิถีชีวิตที่สุดโต่งจนเกินไป เราว่าอย่าทำเลย เราไม่ค่อยแนะนำ"

"มีคน DM มาเรื่องนี้เยอะมาก 'พี่ยิปต้องกินนั่นเท่าไหร่ ต้องโปรตีนเท่าไหร่ แคลเท่าไหร่' คือมันทำให้เรารู้แหละว่า โอเค คนยุคปัจจุบันนี้ สนใจเรื่องการดูแลตัวเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเป็นไปได้ เราก็ไม่อยากให้เขาจะต้องมาอยู่ในจุด ที่เราเคยอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่จุดที่ดีเลยอ่ะทุกคน"

"เราใช้เวลานานมาก กว่าจะก้าวออกมาจากจุดนั้นได้ กว่าจะตัดใจแล้วโยนเครื่องชั่งน้ำหนักทิ้ง เพราะเราติดมาก ติดดูตัวเลขมาก ทุกเช้าถ้าเหยียบขึ้นไปแล้ว เลขไม่ได้เป็นแบบที่ตัวเองพอใจ เราร้องไห้นะ วันนั้นทั้งวันไม่มีความสุข เริ่มต้นทั้งวันไม่มีความสุขเลย เพราะว่าตัวเลขไม่ใช่แบบที่เราต้องการ"

"เราไม่อยากให้ความสุขของคุณ ถูกกำหนดเอาไว้ด้วยตัวเลขบนตาชั่ง หรือแม้กระทั่งรูปร่างหรืออะไรก็ตาม หาจุดสมดุลให้ดี เลือกอะไรที่เหมาะกับร่างกายของตัวเองจริงๆ สุดท้ายดูแลสุขภาพจิตของตัวเองด้วย อยากให้ทุกคนสุขภาพดี สุขภาพจิตดีด้วย ใครอยากจะให้มาแชร์เรื่องอะไรอีก ก็ลองคอมเมนต์มานะคะ หวังว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่เข้ามาดูนะคะ ขอบคุณค่ะ"