svasdssvasds

บุ๋ม ปนัดดา เผยเคสเรียกน้ำตา เคยช่วยเด็กโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย

บุ๋ม ปนัดดา เผยเคสเรียกน้ำตา เคยช่วยเด็กโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย

ขอกางปีกปกป้องผู้หญิง "บุ๋ม ปนัดดา" น้ำตาซึม เล่าเคยเจอเคสเจ็บปวดใจ จนต้องลงพื้นที่ช่วยเด็กน้อยโดนข่มขืน เหตุไม่มีตำรวจช่วย เพราะเป็นคนมีอิทธิพล

เป็นตัวแม่เรื่องการช่วยเหลือสังคม สำหรับพิธีกรชื่อดัง "บุ๋ม ปนัดดา" ที่ยืนหนึ่งเรื่องหัวใจจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชนมามากมาย รวมถึงรับอุปการะเด็กๆ ให้ได้มีชีวิตที่ดีหลายคน ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกรายการ คนดังนั่งเคลียร์ เปิดใจทุกซอกทุกมุม ทั้งเรื่องออกมาเป็นกระบอกเสียงเพื่อเด็ก

รวมถึงสตรีจากการถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกกระทำชำเรา และเป็นคนช่วยเหลือคนยามยาก จนเกิดมูลนิธิองค์กรทำดีขึ้น แต่ก็มิหวายถูกคนครหาต่างๆ นานา โดยสาวบุ๋ม ได้ตอบทุกประเด็น พร้อมเล่าเคยเจอเคสเรียกน้ำตา ต้องลงไปช่วยเด็กอายุ 2 ขวบโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย เพราะเป็นคนมีอิทธิพล  

ทุกครั้งที่มีเรื่องเกี่ยวกับการข่มขืน กดขี่ ข่มเหงสุภาพสตรี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามในประเทศไทย เราจะเห็นคนชื่อ บุ๋ม ปนัดดา ออกมาในสื่อตลอด?

"คือตัวบุ๋มเนี่ย การที่เราเป็นคนที่มีชื่อเสียงค่ะ แต่ชื่อเสียงมันอยู่กับเราไม่นานเนอะ ดังนั้นเราอยากใช้ชื่อเสียงในวันที่มีชื่อเสียงอยู่ เป็นกระบอกเสียงให้กับสิ่งดีๆ และก็เป็นพลังให้กับผู้หญิงอีกหลายคนว่า ถ้าเกิดคุณโดนใครทำร้าย คุณไม่จำเป็นต้องปิดปากเงียบ คนดีต้องอยู่ในสังคม คนร้ายต่างหากที่ต้องออกไปจากสังคม หรือไปอยู่ในคุก ดังนั้นเราควรจะเข้มแข็ง และปกป้องคนที่อ่อนแอ ก็เลยอยากเป็นกระบอกเสียงตรงนี้ กางปีกปกป้องผู้หญิงอีกหลายคนที่ไม่สามารถจะพูดได้ดังๆว่า เขาถูกทำร้ายอยู่ หรือเขาเคยโดนทำร้าย หรือผู้ชายคนนั้นก็ยังข่มขู่เขาด้วย มันไม่ใช่ชีวิตที่ดีเลยสำหรับผู้หญิงคนนึงคะ"

บุ๋ม ปนัดดา เผยเคสเรียกน้ำตา เคยช่วยเด็กโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

จากวันที่บุ๋มช่วยคนอื่นไปในเคสแรกๆ เคยคิดไหมวันนี้ มันจะเป็นประเด็นระดับชาติว่าถ้ามีเรื่องราวแบบนี้ต้องเป็น ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่ต้องลุกขึ้นมาเป็นกระบอกเสียง?

"ไม่เคยคิดเลยค่ะว่า ชีวิตนี้ต้องมาทำบทบาทขนาดนี้ รู้แค่ว่าวันนั้นเรามีลูกสาว ตัวเองก็เป็นผู้หญิง เราก็ไม่อยากเอาตรงนี้มานั่งกลัวกันเอง 2 คนแม่ลูก แต่เราต้องเอาชีวิตเรา และความเป็นปนัดดา วงศ์ผู้ดี สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆได้ คิดแค่นั้นเองค่ะ แต่ไม่รู้ว่าวันนึงตัวเองต้องมาลงบทบาทเต็มที่กับการที่ต้องมานั่งทำมูลนิธิจริงจัง เพื่อสานงานต่อกับหน่วยราชการ เพื่อคุยกับมูลนิธิอื่นๆเช่น ตอนนี้อย่างที่หนูทำ เจอเด็กที่ลำบาก หรือโดนทำร้ายร่างกาย หรือครอบครัวที่มีการทารุณกรรมเด็ก เราก็จะจับแยกเด็กออกมา แล้วก็หาที่เรียนให้เขา มีโรงเรียนให้เขาเรียนฟรี หรือจะให้อนาคตจะไปต่ออย่างไร ซึ่งหนึ่งในโรงเรียนนั้นคือของอ.ยิ่งศักดิ์ กราบขอบพระคุณค่ะ นี่คือความตั้งใจที่เราอยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม แต่ก็ไม่นึกว่าเคสจะมาตลอดอย่างนี้" 

บุ๋ม ปนัดดา เผยเคสเรียกน้ำตา เคยช่วยเด็กโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย

มีเรื่องไหนหนักสุดไหม เห็นว่ามีจำนวนมากที่ไม่ได้ออกสื่อทุกเรื่อง?

"การที่บางเคสออกสื่อ เป็นเพราะว่ากรณีนั้น บุ๋มเจอเจ้าหน้าที่ไม่เป็นธรรมค่ะ บุ๋มเจอเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกับคนร้ายค่ะ ดังนั้นบุ๋มเลยอยากได้สื่อที่เป็นพลังให้กับบุ๋ม อยากได้พี่น้องประชาชนมาเป็นพลังให้กับบุ๋ม เราต้องดูเป็นเคสแต่ละเคสค่ะ ซึ่งอย่างที่บอก จริงๆแล้วเคสที่ออกข่าวที่บุ๋มทำทั้งหมดสักประมาณ 20% ค่ะ อีก 80% คือไม่ออกข่าวเลยค่ะ แล้วจัดการ อยู่ตรงนั้น เคลียร์ตรงนั้นได้ และช่วยเหลือเขาได้จบเคสไป แต่ทำไม 20% ที่ออกข่าว อาจเป็นข่าวใหญ่เพราะ บางทีผู้เสียหายเป็นร้อยอย่างเช่น เคสโมเดลลิ่ง ที่เขาอยู่ในพื้นที่มาเกือบ 20 ปี แต่เขาทำเรื่องนี้กับเด็กๆมามากกว่า 10 ปี แล้วเขาก็เก็บภาพเด็กเป็น 100 คน จนเราไปจับเขาได้ว่าเขาทำตัวตุ้งติ้ง แต่เขาไม่ใช่ค่ะ ตัวจริงเป็นผู้ชายแท้ๆ และมีภาพลับเขาทำอะไรกับเด็กอยู่ ดังนั้นเราต้องจับเขาให้อยู่ และเอาหลักฐานมัดเขาให้ได้ เพื่อไม่ให้เขาไปทำเด็กคนอื่นต่อไปค่ะ"

การเชิดชูว่า "ถ้ามีการข่มขืน=ประหาร" บุ๋มรู้สึกอย่างไร คนบางคนไม่ได้มองประเด็นนี้ว่ามันใหญ่โต?

"อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ชายคนนั้นคิดว่า คนที่โดนไม่ใช่พี่น้องเขาค่ะ ถ้าเป็นลูกสาวเขาโดน บุ๋มบอกเลยว่าเขาอาจจะไม่มองบุ๋มในการพึ่งกฎหมาย เขาอยากฆ่าไอ้คนที่ทำเองด้วยซ้ำไป ดังนั้นบุ๋มอยากจะบอกว่าข่มขืน = ประหาร ไม่ใช่เสียงบุ๋มนะคะ แต่เป็นเสียงของพี่น้องประชาชนที่ส่งเสียงมาให้บุ๋มค่ะ บุ๋มไม่ใช่เป็นคนเริ่มต้นความคิดนี้เลยค่ะ แต่บุ๋มแค่ทำไปข้างหน้าด้วยมุมมองกฎหมายที่เป็นไปได้ สิ่งที่บุ๋มทำคือทำให้มันเป็นจริงในมุมต่างๆ ที่ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เช่นกฎหมายตรงนี้มันอ่อนเกินไป ค่าปรับมันน้อยเกินไป หรือตอนนี้โทษจำคุกก็ยังอยู่ 4-20 ปี มันก็รู้สึก คนที่โดนเขายังไม่สามารถปรับสภาพจิตใจได้เลย ไอ้นั่นออกจากคุกอีกแล้วแบบนี้"

เขาก็ต้องหวาดกลัว เขาจะมาทำอีกไหม?

"ใช่ เพราะอย่าลืมนะคะ เคสข่มขืนต้องเป็นเคสที่เจอกับตัว ไม่ใช่อยู่ต่างจังหวัดแล้วทำกันได้ถูกไหม ดังนั้นเขากำลังจะกลับมาบ้านเดิม อ้าวแล้วคนที่โดนล่ะ ถึงบอกว่ามันต้องให้เวลาคนที่โดน ไม่ใช่ให้เวลาให้เขาอยู่ในคุกนานๆ ดังนั้นบุ๋มก็เลยยื่นกฎหมายไปอีกข้อนึง โดยการขอยกเลิกข่มขืนนักโทษ 5 ประเภท นักโทษข่มขืนแล้วฆ่า ข่มขืนโดยใช้อาวุธร้ายแรง ข่มขืนคนในสันดาน(พ่อข่มขืนลูก ลุงข่มขืนหลาน หรือข่มขืนเยาวชน) และข่มขืนซ้ำ นักโทษข่มขืน 5 ประเภทนี้ไม่ได้รับการอภัยโทษอีกต่อไปแล้วนะคะ แล้วบุ๋มยื่นกฎหมายสำเร็จเรียบร้อยแล้วด้วย"

ทำไมบุ๋มไม่ลงเล่นการเมืองเป็น ส.ส.หญิง ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีไทยทั้งแผ่นดิน?

"ณ วันนั้นบุ๋มเอง ยังมองไม่เห็นภาพตัวเองอยู่ตรงนั้น แล้วบุ๋มจะจัดการอะไรอย่างไรได้ค่ะ เพราะทุกวันนี้บุ๋มก็ทำให้ได้อยู่แล้ว"

นอกจากบุ๋มช่วยผู้หญิงแล้ว บุ๋มยังช่วยเด็กด้วย ได้ช่วยอะไรเด็กๆ บ้าง?

"หลายแบบเลยค่ะ ตั้งแต่เด็กที่ครอบครัวไม่เหลือใครเลย ก็จะให้การศึกษาเขา ตอนนี้บุ๋มมีลูกบุญธรรม 9 คน ด้วยแต่ละครอบครัวมาจากฐานะยากจน ใช่ แต่บางคนถูกทำร้ายร่างกายมา บางคนเป็นคดีมา ที่ไม่สามารถพูดได้ค่ะ หลายๆคนเลยไม่ได้เปิดหน้า หลายคนที่โดนทำร้ายมาเนี่ย เราก็จะกางปีกปกป้องเขา เพราะไม่มีใครปกป้องเขา"

พวกเขามีแผลเป็นในใจ ต้องใช้พลังเยอะมากในการที่จะไปปลอบประโลมพวกเขา เราต้องใช้พลังอะไรในการดูแลเขา?

"ต้องคุยกับเขาเยอะมากเลยค่ะ ต้องพยายามเดินไปกับเขาค่ะ แล้วก็เข้าใจเขาให้มากที่สุดว่า สิ่งที่เขาเจอมันไม่เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต แล้วบุ๋มก็จะรวมกลุ่มเด็กๆ ที่มีปัญหาด้วยกัน มาเจอกัน มานั่งพูดคุยกันว่า หนูมีพี่และมีน้องนะลูก หนูต้องใช้ความอ่อนแอที่หนูเคยเจอ มาเป็นความเข้มแข็งให้กันและกันให้ได้"

มีไหมที่รักษาไม่ได้ หลอนไปเลย?

"มีเคสนึง โดนข่มขืนตั้งแต่ 2 ขวบ เป็นคนข้างบ้าน แล้วเป็นเจ้าของร้านชำ ทำน้องเขาถึง 10 ขวบเลย จนหนูมารู้เรื่องที่หลัง พ่อ แม่และยายเขาเดินมาหา บอกว่าคุณบุ๋มช่วยเถอะ เพราะตำรวจไม่ช่วย เขาบอกว่าเมียเป็น อบต. เคลียร์ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ในพื้นที่นั้นซึ่งมีเด็ก 13 คนที่โดน เด็กผู้ชาย 3 คน เด็กผู้หญิง 10 คนค่ะ"

"ผู้ชาย 3 คน ตำรวจไม่รับแจ้งบอกว่า เด็กผู้ชายไม่เสียหายหรอก แต่เด็กผู้ชายกำลังเล่าให้บุ๋มฟัง น้ำตาเขาคลอ มันคือแผลในใจเขา แต่ไม่มีคนรับฟังเสียงของเขา ผู้ชายก็คนค่ะ แล้ววันนึงมีเด็กผู้หญิงคนนึงไปแจ้งความค่ะ ตำรวจถามมีหลักฐานไหม สิ่งที่เด็กเข้าใจ วันนั้นเขาเลยให้เพื่อนเด็ก 6 ขวบอีกคนนึง ปีนเข้าไปในบ้านหลังนั้น แล้วไปยืนอยู่มุมตู้เสื้อผ้าแอบอยู่ตรงนั้น เพื่อให้เขาโดนข่มขื่นอีกครั้งแล้วถ่ายรูปค่ะ นั่นคือสิ่งที่เขาเข้าใจค่ะ"

"บุ๋มก็เลยถามไปยังนายก อบต. ว่าคุณมีเมียแบบนั้น ขอโทษนะคะวิญญาณเก่าออกอ้าวเมียเป็น อบต. แล้วอบต. ส่งเสริมเรื่องราวคดีอย่างนี้เหรอ คุณรับอย่างนี้เหรอ อบต.นี้จะได้ไม่ต้องเลือกอีก เอาไง หนูจะได้ลงโพสต์ ทีนี้บุ๋มก็ไปอีกจังหวัดนึง แล้วจังหวัดนั้นก็เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ไม่มีตรวจร่างกายอีก บุ๋มก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายพาขึ้นรถไป ไปจังหวัดนั้นนะลูก เพื่อเอาหลักฐานตรวจร่างกาย"  

บุ๋ม ปนัดดา เผยเคสเรียกน้ำตา เคยช่วยเด็กโดนข่มขืน เพราะไม่มีตำรวจช่วย

related