รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ชี้ การเมืองไทยชงักงัน เพราะฝ่ายขวาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ กดดันให้ “พรรคเพื่อไทย” ที่ต้องการให้ทักษิณกลับบ้าน สลัด “พรรคก้าวไกล” นำไปสู่สถานการณ์แดงบวกเหลือง สกัดส้ม
รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กลุ่มอำนาจนิยมฝ่ายขวาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ พรรคเพื่อไทยอยากพาทักษิณอยากกลับบ้าน นำไปสู่สถานการณ์ แดงบวกเหลืองสกัดส้ม ดังต่อไปนี้
1. การไม่ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งของกลุ่มอำนาจนิยมฝ่ายขวา นำมาซึ่งการชงักงันของการเมืองไทย พวกเขาใช้ สว.และองค์กรอิสระสกัดกั้นพรรคการเมืองที่รวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่ให้เป็นรัฐบาล และพยายามกดดันให้พรรคเพื่อไทยสลัดพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคที่ชนะเป็นลำดับหนึ่งในการเลือกตั้ง ออกจากการเป็นพันธมิตรร่วมจัดตั้งรัฐบาล
2. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงมีกระบวนการกดดันพรรคก้าวไกล เริ่มจากพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคขั้วอำนาจเก่ามาพูดคุย และแถลงต่อสาธารณะว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล หลังแถลงจบแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคที่มาร่วมแถลงก็ไปดื่มเครื่องดื่มที่ชื่อช็อคโกแลต มิ้นต์ ชนแก้วกันอย่างรื่นเริง เกิดภาพที่ชวนฉงนขึ้นมา ผิดจากความเป็นปกติทั่วไป
โดยปกติหากการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ร่วมเจรจา โดยเฉพาะฝ่ายที่เป็นเจ้าภาพมักจะต้องมีสีหน้าเคร่งเครียดและกังวล แต่กลายเป็นว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยมีสีหน้ายินดีปรีดากับความล้มเหลวในการเจรจาของตนเอง “งานล้มเหลว แต่กลับยินดี” ช่างน่าประหลาดดีแท้กับวิธีคิดของแกนนำพรรคเพื่อไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ธรรมนัส" ยันร่วมรัฐบาลได้ เชื่อได้นายกฯ ก่อน 15 ส.ค. ปัดคุยทักษิณที่ฮ่องกง
วิโรจน์ ยัน ไม่เชื่อข่าวลือ "เพื่อไทย" สลับขั้ว ดีด "ก้าวไกล" ไปเป็นฝ่ายค้าน
3. แต่เพียงไม่นาน ประชาชนก็ถึงบางอ้อ เมื่อ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร เขียนในเฟซบุ๊กของเธอว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะกลับประเทศไทยวันที่ 10 สิงหาคม พร้อมกับข่าวที่ว่า แกนนำพรรคการเมืองหลายพรรคบินไปฮ่องกง เพื่อเจรจากับนายทักษิณ
ผู้เชี่ยวชาญการเมืองวิเคราะห์ตรงกันว่า นายทักษิณคงประสบความสำเร็จในการเจรจากับกลุ่มอำนาจบางกลุ่ม เกี่ยวกับการกลับประเทศไทยของเขา เพื่อแลกกับการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มีพรรคก้าวไกล
4. เกิดเป็นสมการอันลือลั่นสนั่นเมืองว่า “แดงบวกเหลือง” รวมกันสกัด “ส้ม” และเกิดปรากฏการณ์อันพิลึกพิลั่นด้วยอดีตแกนนำเสื้อเหลืองขวาจัดหลายคนออกมาชื่นชมนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยอย่างออกหน้าออกตา เศษซากของความขัดแย้งเหลืองแดงถูกปัดกวาดให้หายไปอย่างฉับพลัน
5. ทว่าอันเนื่องประเทศไทยอยู่ในฤดูฝน ลมฟ้าอากาศแปรเปลี่ยนได้ง่าย แดดออกไม่ทันไร ฟ้าก็มืดมัวด้วยเมฆฝน ดีลลับที่จะทำให้นายทักษิณกลับประเทศไทยที่ดูแจ่มใส พลันดับวูบ การวาดฝันว่า พลันที่มาถึงประเทศไทยแล้วจะได้อภัยโทษออกจากคุกทันที เป็นฝันกลางฤดูฝนเสียมากกว่า
สังคมใดเล่าจะทำเรื่องที่ขัดกับหลักนิติธรรมเยี่ยงนั้นได้ หากจะกลับประเทศไทยก็ต้องเข้าทางตรอกออกทางประตู รับโทษทัณฑ์ที่ตนเองทำเสียก่อนตามครรลอง จะมาฉีกครรลองเพราะความเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีดูจะไม่งามนัก
6. เมื่อดีลล้ม การกลับประเทศก็ต้องเลื่อนออกไป รัฐบาลข้ามขั้วก็มืดมัวลง บทเรียนครั้งนี้น่าจะทำให้แกนนำของพรรคต้อง “คิดใหม่ ทำใหม่” เสียที ตามคำขวัญเดิมของพรรคไทยรักไทย
การจมอยู่ในวังวนความคิดเดิมที่เล่นการเมืองแบบเกมอำนาจ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อนำทักษิณกลับบ้านที่ครอบงำความคิดของแกนนำพรรคมาหลายปี ควรถึงเวลาเลิกได้แล้ว และหันมาพัฒนาทิศทางใหม่ให้พรรคมีความเป็นสถาบันการเมืองที่เชื่อมโยงกับประชาชนอย่างจริงใจ แทนที่จะอาศัยมวลชนเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
7. หากพรรคเพื่อไทยคิดว่ายังมีช่องทางใดที่จะชักชวน สส. จากพรรคอื่นๆ มาสนับสนุนคุณเศรษฐาให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมได้ ก็ทำไป
แต่หากคิดว่า ไร้ความสามารถและอับจนหนทางแล้ว ก็ควรคืนสิทธิการเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้แก่พรรคก้าวไกลเสียเถอะ
และควรปฏิบัติตามทิศทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ นั่นคือ สนับสนุนญัตติของพรรคก้าวไกลในการยกเลิกมติอัปยศในวันที่ 19 ก.ค. ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และคืนสิทธิการเสนอชื่อการเป็นนายกรัฐมนตรีแก่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
รวมทั้งสนับสนุนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งจะทำให้ สว. สิ้นอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรจะได้มีอำนาจเต็มในการเลือกนายกรัฐมนตรีเสียที
กระบวนการนี้ใช้เวลาน่าจะประมาณ 1-2 เดือนก็น่าจะเสร็จ จากนั้นก็จะได้เลือกนายกรัฐมนตรีตามครรลองอันชอบธรรมของระบอบประชาธิปไตยเสียที