จับตา “พรรคก้าวไกล” มีโอกาสถูกยุบพรรคหรือไม่ ?

นอกจากคดีถือหุ้นสื่อไอทีวี ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง กกต. และสั่งให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม สภามีมติ “ไม่สามารถโหวตชื่อพิธาเป็นนายกฯ ซ้ำได้” แม้ต่อมา “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” จะยื่นเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยว่า “มติสภาดังกล่าว ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่” แล้วก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากมูฟเม้นต์ทางการเมืองในเวลานี้ ก็ถือได้ว่า “โอกาสที่ “พิธา” จะได้เป็น “นายกฯ” แทบหมดสิ้นลงไปแล้ว

เพราะหลังจากวันที่ 19 กรกฎาคม เกมการจัดตั้งรัฐบาล ก็ตกอยู่ในกำมือของ “พรรคเพื่อไทย” อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ได้กลายเป็นผู้ควบคุมและกำหนดเกมว่า จะให้หน้าตาของรัฐบาลออกมาในรูปแบบใด และยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นถึงแนวโน้มว่า รัฐบาลชุดใหม่อาจไม่มี “พรรคก้าวไกล” อยู่ในสมการ !

แม้ที่ผ่านมา “พรรคก้าวไกล” จะพยายามฮึดสู้ ออกแรงยื้อ แต่ก็เป็นไปได้ยาก อาทิเช่น หลังการโหวตนายกฯ รอบแรก “พิธา” ได้เสียงจาก สว. เพียง 13 เสียง วันต่อมา “พรรคก้าวไกล” ก็ยื่นเรื่องขอแก้มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ สว. แต่ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากมาก เพราะต้องอาศัยเสียงเห็นชอบจาก สว. 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 คนขึ้นไป

บทความที่น่าสนใจ

• สรุปสถานการณ์เดือด ช็อกมิ้นต์การเมือง เดือนกรกฎาคม 2566

• ข่าวลือวันก่อน กับภาพที่เห็นวันนี้ "สูตรสลับขั้ว" ที่กลายเป็นเรื่องจริง ?

• พี่โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร ไม่อยู่ไทย 15 ปี ประเทศไทยเปลี่ยนนายกฯ ไปแล้วกี่คน ?

• ย้อนคำพูด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวถึงประเด็น ทักษิณกลับบ้าน วันเลือกตั้ง 66

หรือความพยายามยื้อการโหวตนายกฯ ออกไปอีก 10 เดือน เพื่อรอให้ สว. ชุดปัจจุบันหมดอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ ตามบทเฉพาะกาล 5 ปี แม้จะเกิดกระแสพูดถึงในสังคมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงทางการเมือง ก็ถือว่าเป็นอีกแคมเปญหนึ่ง ที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

อีกทั้งยังมีอีกโจทย์ใหญ่ ที่ “พรรคก้าวไกล” ต้องเตรียมรับมือ นั่นก็คือ กรณีมีผู้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า "การกระทำของนายพิธา และพรรคก้าวไกลที่เสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่.... พ.ศ. .... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่"

โดยในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้รับคำร้องดังกล่าวแล้ว และมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

ซึ่งหากสมมติว่า คำวินิจฉัยออกมาว่า เป็นกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ “พรรคก้าวไกล” ก็จะถูกยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรค จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ซ้ำรอย “พรรคอนาคตใหม่” ก่อนหน้านี้

โดยทางรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ในวันที่ 27 กรกฎาคม ดำเนินรายการโดย “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” และ “อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์” ได้วิเคราะห์ว่า ไม่ว่า “พรรคก้าวไกล” จะลงเอยด้วยการถูกยุบพรรคหรือไม่ แต่บทเรียนที่ผ่านมาจาก “พรรคอนาคตใหม่” ทำให้ทางพรรคได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ซึ่งหากถูกยุบพรรคในครั้งนี้ ก็จะมีกรรมการบริหารถูกตัดสิทธิทางการเมือง ประกอบด้วย

1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

2. ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

3. ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค

4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรคก้าวไกล

5. สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคใต้

6. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคกลาง

7. เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก

8. อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

9. สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร สัดส่วนปีกแรงงาน

10. ปดิพัทธ์ สันติภาดา” กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ ได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคแล้ว เพื่อทำหน้าที่ “รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1”

และหาก หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ คือ ผู้นำรุ่นที่ 1 ก็เท่ากับว่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการก้าวไกล ก็คือผู้นำรุ่นที่ 2

และสมมติว่าถูกยุบพรรคอีก ก็ได้มีการวางตัวผู้นำรุ่นที่ 3 ไว้แล้ว นั่นก็คือ “ศิริกัญญา ตันสกุล" ในตำแหน่ง “หัวหน้าพรรค” โดยมี “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนบุคคลที่คาดว่าจะผู้นำรุ่นที่ 4 ก็ได้แก่ “ไอติม - พริษฐ์ วัชรสินธุ” ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค  

สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ กดดันให้ “พรรคก้าวไกล” ต้องประสบกับ “นิติสงคราม” ที่หนักหน่วงและรุนแรง แต่สงครามครั้งนี้ ไม่ได้จบสิ้นที่การถูกยุบพรรคอย่างแน่นอน ดังเช่นกรณีของ “พรรคอนาคตใหม่” ที่หลังจากถูกยุบพรรค ก็กลายมาเป็น “พรรคก้าวไกล” ในวันนี้ 

อ้างอิง

LIVE เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand 27 ก.ค. 66