"วิโรจน์" เปิดคลิปหลักฐานมัด "สมชาย" ปมพร้อมหนุนโหวตนายกฯ หากรวมเสียง 270 -300 เสียง ด้าน"สมชาย"ลุกขึ้นขอให้ถอนคลิป โต้เดือนอย่าเล่นเป็นเด็ก โตสักที "วิโรจน์" สวนอย่าแก่กะโหลกกะลา
การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) วาระโหวตเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมยังมีข้อถกเถียง เพื่อหาข้อยุติโดยให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายภายใต้ข้อบังคับ 151 เพื่อตีความข้อบังคับที่ 41 ว่าสามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำได้อีกหรือไม่
โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อภิปรายว่า ญัตติที่เป็นข้อถกเถียงกันในวันนี้ เป็นข้อเสนอเพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณาและลงมติไปทางใดทางหนึ่ง แต่ญัตติโดยปกติแล้วต้องมีผู้เสนอญัตติ โดยข้อบังคับกำหนดให้ยื่นล่วงหน้าและทำเป็นหนังสือ หากไม่ยื่นล่วงหน้าหรือทำหนังสือก็ต้องเป็นไปตามข้อบังคับต่อไป
แต่การเสนอบุคคลให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ในข้อบังคับข้อที่ 136 แล้วจะเอาการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีมาเป็นญัตติได้อย่างไร ดังนั้นจะตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติไม่ได้
"เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะมองแค่ตัวบุคคลอย่างเดียวไม่ได้ บุคคลคนเดียวกันแท้ๆ พอเวลาเปลี่ยน สิ่งที่เคยพูดไว้ก็เปลี่ยนได้ แม้คำพูดนั้นจะพูดในรัฐสภาแห่งนี้ก็ตาม แม้ว่าในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 จะมีการพูดเอาไว้ในสภาแห่งนี้บางประโยคแต่ปัจจุบันคนคนเดิมสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ กลับเปลี่ยนแปลงไป จากนั้นนายวิโรจน์ได้ขอให้เปิดคลิปที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าท่านไปรวมกันให้ได้ 270 -300 เสียง สว.ก็ไม่มีปัญญาไปทำอะไรแล้วในการไปโหวตค้านที่สภาแห่งนี้ เห็นว่าผู้นั้นอยู่ในบัญชีรายชื่อและเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "พิธา" กล่าวอำลาที่ประชุมร่วมรัฐสภา หลังศาลรธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
• เปิดเหตุผล 2 เสียงข้างน้อย! ข้องใจปม "พิธา" ถือหุ้นไอทีวี เป็นผู้จัดการมรดก?
• เดือด! ส.ว.ลุกแจ้งคำสั่งศาลปม "พิธา" "วิโรจน์" จวกควรรอเอกสารราชการก่อน
ในระหว่างที่เปิดคลิปวิดีโออยู่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวให้หยุดการเปิดคลิป นายวิโรจน์จึงกล่าวว่าเพื่อความสบายใจของประธาน ตนจะหยุดการเปิดคลิปและจะอัปโหลดคลิปลงใน Facebook ของตนเอง
ซึ่งในระหว่างที่นายวิโรจน์กำลังพูดอยู่นั้นนายสมชาย ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ที่นายวิโรจน์ได้เปิดคลิปตนเองในที่ประชุมรัฐสภาและขอให้ประธานรัฐสภา ถอนคลิปออกจากการประชุม ตนก็มีคลิปนายวิโรจน์เยอะ แต่คิดว่าสภาแห่งนี้เดินหน้าไปได้ด้วยดีแล้วอย่าทำแบบนี้เลยทำแบบนี้ไม่ค่อยสุภาพ แม้ไม่มีปัญหาอะไร
นายวิโรจน์ จึงได้ลุกขึ้นประท้วงใช้สิทธิ์พาดพิง ว่าถ้านายสมชาย แสวงการได้ถอนคำพูดที่ว่า ถ้ามี 270 ถึง 300 เสียงก็ไม่มีปัญหา ที่ได้พูดไว้ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ถ้าถอนเมื่อ 2 ปีก่อนผมก็ถอนเหมือนกัน ตนไม่มีปัญหา ถอนกับถอนแลกกันได้ เพราะเป็นคลิปจริงไม่ได้ตัดต่อเสียงก็เสียงจริงตัวจริงเลย แม้จะคาดหน้ากากอนามัยก็เห็นว่าเป็นตัวจริง ท่านถอนคำพูดที่พูดไว้เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนได้
จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ปิดไมค์นายวิโรจน์ และกล่าวว่าคลิปเมื่อสักครู่ นายวิโรจน์ไม่ได้ขออนุญาตจากประธานก่อน นายวิโรจน์จึงลุกขึ้นประท้วง ประธานว่าตนได้ขออนุญาตประธานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประธานก็ได้อนุญาตให้ตนเปิดคลิปแล้ว แต่กลับเปลี่ยนเป็นไม่อนุญาตตนในภายหลัง พร้อมฝากประเด็นผ่านประธานสภาให้นายสมชาย ว่าจะถอนคำพูดในวันดังกล่าวหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์จึงได้ให้ นายวิโรจน์หยุดอภิปราย
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ขอให้ประธานถอนคลิปดังกล่าวออกจากการประชุมนี้ ถ้าประธานควบคุมการประชุมไม่ได้ จะทำให้การประชุมสภาเดินต่อยาก ประธานได้สั่งห้ามผู้อภิปรายและได้ให้ถอนคลิปไปแล้ว พร้อมกล่าวว่า
"เหตุการณ์ในคลิปกับตอนนี้คนละเหตุการณ์กัน อย่าตีกิน ตนไม่เห็นด้วย นายวิโรจน์ทำแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษและไม่มีปัญหาอะไรที่ตนจะโหวตอย่างไรพูดอย่างไร นายวิโรจน์พูดตั้ง 10 ครั้ง มีเนื้อหาเยอะแยะมากมาย นายวิโรจน์โตแล้วอย่าเล่นเป็นเด็ก โตสักทีเถอะ"
ในระหว่างที่นายสมชาย กำลังกล่าวอยู่นั้นนายวิโรจน์ได้ลุกขึ้นประท้วง และใช้สิทธิ์พาดพิง ขณะเดียวกันนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.พรรคก้าวไกล กล่าวแทรกว่า "ให้หยุดเหตุการณ์แบบนี้ อยากเป็นผู้ใหญ่ที่กลายเป็นเด็ก"
นายสมชาย กล่าวจึงขอถอนคำพูดที่ว่าโตสักทีเถอะครับคุณวิโรจน์ นายวิโรจน์ ได้กล่าวสวนขึ้นมาว่า "แก่ให้เป็นสักที อย่าแก่กะโหลกกะลา"
นายสมชาย จึงขอให้ถอนคำพูด จากนั้นนายวิโรจน์จึงกล่าวว่า ให้นายสมชายถอนคำพูดก่อน บอกว่าถอนวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ตนก็ถอน เมื่อกี้ท่านบอกว่าบอกให้ผมโตให้เป็นตน ก็ส่วนท่านว่าท่านก็ต้องแก่ให้เป็นเหมือนกันถ้าท่านถอนผมก็ถอน
นายสมชายจึงบอกว่าไม่ต้องห่วงไม่ต้องถอน ผมแก่เป็น แต่ขอให้ถอนคลิปออกเพราะได้กระทำสิ่งไม่ถูกต้อง
นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ให้นายวิโรจน์ถอนคลิปออกไป แม้จะมีการอนุญาตแล้วก็ตาม ตนได้มีการอนุญาตเอง ต้องขออภัยด้วย
จากนั้นนายณัฐวุฒิ ได้ลุกขึ้นกล่าวว่าทางพรรคก้าวไกลมีเอกสารการได้รับอนุญาตเปิดคลิปแล้ว แต่เมื่อสักครู่ยังเปิดคลิปไม่จบ ดังนั้นจึงอยากให้ท่านประธานเปิดคลิปให้จบ และพรรคก้าวไกลก็จะยอมไม่ถอนคลิปดังกล่าวออก เพราะได้ปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้อง
นายสมชาย จึงลุกขึ้นกล่าวว่าประธานได้อนุญาตให้เปิดคลิปโดยไม่ได้ตรวจตนไม่อยากเข้าร่วมว่าเป็นรับเป็นความรับผิดชอบของประธาน ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และยืนยันว่าต้องถอนคลิปออก
นายวันมูหะมัดนอร์ จึงขออภัยที่ไม่ได้ตรวจทานคิดให้รอบคอบ เมื่อนายสมชายขอให้ถอน จึงต้องสอบถามนายวิโรจน์ นายวิโรจน์จึงลุกขึ้นกล่าวว่า
"คลิปดังกล่าวเป็นคลิปการประชุมของทีวีสภา เพราะการถ่ายทอดประชุมรัฐสภาก็เป็นการถ่ายทอดอย่างเปิดเผยและเป็นการเปิดซ้ำเป็นเรื่องปกติไม่ได้มีความเสียหายอย่างไรถ้าเกิดเปิดแล้ว นายสมชาย อาจจะกล่าวหาว่าตนใช้ AI ก็ได้แต่อยากกล่าวหาประธานไม่ได้ นี่คือโรคอาการกลัวความจริงหรือ ร้อนในสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้หรือ นี่หรือครับคนที่แกเป็นไม่ใช่ครับประธาน"
จากนั้นนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ลุกขึ้นประท้วงประธานสภา ว่าการประชุมต้องให้เกียรติกัน การไม่พอใจ จะว่าคนนู้นแก่คนนี้แก่ อีกหน่อยก็แก่ทุกคนเพราะฉะนั้น เป็นคำที่พูดแล้วก่อให้เกิดปัญหา ส่วนคลิปที่นำมาเปิดนั้นเมื่อประธานเห็นแล้วเห็นว่า อาจก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกัน และวินิจฉัยแล้ว ว่าไม่สมควรให้เปิด ก็ต้องเป็นไปตามประธาน
อีกอย่างคลิปที่นำมาเปิดนั้นเป็นคนละเหตุการณ์เป็นช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เหตุการณ์ในเรื่องที่จะพิจารณาในครั้งนี้ ดังนั้นจะเอาเหตุการณ์หนึ่งมาแสดงว่าอีกคนหนึ่งมีความคิดเห็นในขณะนั้นเพื่อจะมาหักล้างกันหรือมาต่อสู้กันจนว่าไม่สมควร แม้ว่าคลิปเหล่านี้เป็นคลิปที่เปิดสาธารณะไปแล้วแต่เลยช่วงนั้นไปแล้วตอนนี้เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นสิทธิที่เจ้าของคลิป ที่มีภาพอยู่ในนั้นอาจจะไม่อนุญาตก็ได้ ดังนั้นจึงอยากให้การดำเนินการประชุมต้องเอาประธานเป็นหลัก
นายวันมูหะมัดนอร์จึงขอใช้อำนาจของประธานยุติของทั้งสองฝ่าย คลิปก็ไม่ต้องเปิดและการถอนของนายสมชายก็ไม่ต้องถอน เพื่อให้การประชุมเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย