"แสนปิติ สิทธิพันธุ์" ซัดก้าวไกลปลุกระดม จะไม่มีโอกาสเห็นนายกฯชื่อ "พิธา"

17 Jul 2023

ฟาดเดือด! "แสนปิติ สิทธิพันธุ์" ลูกชายชัชชาติ โพสต์แรงถึงพรรคก้าวไกลคือ พรรคปลุกระดมและยกเลิกวัฒนธรรม ถึงเวลาต้องถอยและฟังผู้ใหญ่มากกว่าเด็กวัยรุ่นหัวรั้น มั่นใจหมดเวลา "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หมดสิทธิ์นั่งนายกรัฐมนตรี

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางโซเชียล และติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ภายในเวลาไม่นาน หลังจากที่นายแสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย บุตรชายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุข้อความร้อนแรงถึงพรรคก้าวไกล ว่า

ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย อยู่ในจุดที่แย่และอันตรายมาก เลิกกันเถอะครับ เราแค่ไม่เหมาะสำหรับกันและกัน มันก็แค่ความเป็นจริงทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

และถึงเวลาแล้วที่พรรคก้าวไกลต้องเสียสละบ้างแล้ว เพื่อให้พรรคเพื่อไทยจะได้นำประเทศไทยไปสู่อนาคต ซึ่งเราได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นเวลาถึง 20 ปี ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นเสือตัวที่ 5 ซึ่งเราไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ ถ้าคุณเอาแต่บ่นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและกฎหมาย เราต้องมุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจและวิธีการนำเงินมาสู่กระเป๋าของประชาชน อย่าให้เราทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

ขอให้พรรคก้าวไกลฟังผู้ใหญ่ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของประชาชน Move Forward (พรรคก้าวไกล) คือ พรรคปลุกระดมและยกเลิกวัฒนธรรม

ตอนนี้ผมคิดว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะค่อยๆผ่านช่วงเวลาฮันนีมูน ไปสู่ความสัมพันธ์แบบต่อรองที่แย่และหยาบคาย เราควรสื่อสารและแสดงความชัดเจนก่อนจะแยกทางกันอย่างเป็นมิตร

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ ยังระบุว่า ผมขอพูดตรงๆ นะครับ ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในแนวร่วมเดียวกัน

การแก้ไขมาตรา 272 จะไม่มีทางเกิดขึ้น
การแก้ไขกฎหมายที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้น
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีทางเกิดขึ้น ไม่มีทาง (NEVER)
ตราบใดที่ พรรคก้าวไกลยังคงมุ่งมั่นที่จะโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง คุณจะไม่มีวันชนะ
คุณไม่เคยชนะแบบถล่มทลายเลย มีช่องว่างแค่ 10 เสียง ระหว่างพรรคอันดับ1 และอันดับ2 ซึ่งคุณไม่ได้เปรียบเลย เพราะตาเดินคุณหมดไปแล้ว
วุฒิสภาและคนทั่วไปไม่สนใจเกี่ยวกับการประท้วงหรือการร้องเรียนของคุณ ยังไงพวกเขาก็จะมีอำนาจอีก 1 ปีอยู่ดี การเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าคุณได้คะแนนเสียง 65% เหมือนปี 2548 ของพรรคไทยรักไทย แล้วผมจะพิจารณาจุดยืนของผมอีกครั้ง
คุณไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ กลุ่มทุนผูกขาดและบริษัทใหญ่ ไม่ต้องการให้คุณมีอำนาจ เกษตรกรต้องการนโยบายที่ทำให้เขาได้เงิน ไม่ใช่อุดมการณ์ทางเพศ หรือปลุกระดมผลงานไร้สาระ
สรุปแล้ว ไม่มีใครต้องการให้คุณมีอำนาจ มีแต่เด็กวัยรุ่นหัวรั้น กับเด็กดื้อ
พรรคคุณอายุแค่ 2 ปีเอง คุณทำอะไรลงไปบ้างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การฟ้องร้องไม่จบสิ้น ผู้บริหารสูงสุดของคุณ 3 คนถูกแบนการเมือง ห้ามลงเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปีและ นายพิธา อาจจะเป็นเช่นนั้นด้วย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

สุดท้ายนายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ ระบุว่าพูดให้ชัดก็คือ ผมคิดว่านโยบายของก้าวไกลนั้นใช้ได้จริง และเปลี่ยนแปลงได้ เป็นนวัตกรรมที่สร้างสรรค์มาก ผมแค่ไม่ชอบผู้นำหรือคนที่เกี่ยวข้อง พอๆกันกับขบวนการประท้วงทั้งหมดในปี 2563 ผมยังคงสนับสนุนประชาธิปไตย และผมไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ , นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเพียงเห็นด้วยที่จะเห็นต่าง เราทุกคนมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันสำหรับประเทศไทย