"พิธา" ลั่นไม่ยอมแพ้ ขอวางยุทธศาสตร์เพิ่มเสียง ส.ว.โหวตรอบ 2 ย้ำจุดยืนเดิมไม่ถอยแก้ ม.112 ต้องรักษาคำพูดสัญญากับประชาชนไว้ พร้อมยืนยัน "ก้าวไกล-เพื่อไทย" จับมือกันต่อ
วันที่ 13 ก.ค. 66 ภายหลังจากผลการลงมติ การนับคะแนนโหวตนายกอย่างเป็นการทาง ผู้ถูกเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 375 เป็นนายกรัฐมนตรี หลังมีมติออกเสียง เห็นชอบ 322 คะแนน ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 197 คะแนน ทั้งนี้จะมีการจัดประชุมสภาเพื่อโหวตนายกอีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้
ที่ประชุมรัฐสภามีมติ ไม่ให้ความเห็นชอบ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้ระบุว่า
สำหรับผลโหวตที่เกิดขึ้นวันนี้ “ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้” โดยจะเดินหน้าสู่การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ต่อไป ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่คงต้องรอการกำหนดจากทางประธานรัฐสภา จากนี้จะใช้เวลาหายุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
หลังจากทราบผลโหวตนายกฯ แล้ว สื่อมวลชนถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลยังจะจับมือกันต่อใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ผลโหวตที่ออกมาเป็นอย่างนั้นเราก็ยังทำงานร่วมกันได้ เรายังทำงานด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกัน และพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยก็จะจับมือกัน ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
ในรอบที่สองพรรคก้าวไกลจะยอมถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เรายังเหมือนเดิม เคยสัญญากับประชาชนไว้อย่างไรก็จะทำอย่างนั้น ซึ่งวันนี้ได้มีโอกาสอธิบายในสภาฯ ว่าสิ่งที่เรานำเสนอจะเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ทาง ส.ว.และ ส.ส. ที่ยังเข้าใจไม่ตรงกับเราก็ได้มีโอกาสชี้แจงเยอะ รวมถึงสมาชิกพรรคก้าวไกลหลายคนก็ช่วยกันชี้แจงด้วย ซึ่งต่อไปนี้จะมุ่งหน้าไปสู่การลงมติโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่สอง
กับคำถามที่ว่าโอกาส จะหยุดเรื่องมาตรา 112 หรือไม่ ถ้าหยุดอาจมีโอกาสได้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า ตนยืนยันตามเดิมตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ ส่วนเสียง ส.ว. ที่ครั้งนี้ได้เพียง 13 เสียงต่ำกว่าเป้าที่เราวางไว้นั้น คงจะต้องวางยุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงใหม่และจะเริ่มลงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ซึ่ง ส.ว. บางท่านไปต่างประเทศ บางคนติดภารกิจ หรือบางท่านออกจากห้องประชุมไป ที่ตนพูดได้ในวันนี้คือยังไม่ยอมแพ้ และจะพยายามหายุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามขอบคุณส.ว.ทั้ง 13 ท่าน ที่ได้ลงมติตามที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน รวมถึงจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมด้วยว่าเพราะเหตุผลอะไรที่ ส.ว. หลายคนไม่เข้าร่วมประชุม และไม่ได้มีโอกาสโหวตตามที่เราคิดไว้