"สมชาย แสวงการ" ชี้การเลือกตั้งนายกฯ ไม่ใช่การเลือกประธานาธิบดี ที่ใช้มวลชนลงถนน-โซเชียลมีเดีย เป็นกองทัพอวตาร กดดัน เผย สว. ถูกบูลลี่-ข่มขู่ ทุกรูปแบบ ทั้งที่บางคนตั้งใจปิดสวิตซ์ตัวเอง ย้ำ "พิธา" ไม่เหมาะเป็นนายกฯ ปมหนุนแก้ ม.112
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่า ประเทศไทยเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วให้ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่การเลือกตั้งประธานาธิบดี หรือการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่กลุ่มบุคคลสภาทั้งในสภามวลชนบนถนน และในโซเชียลมีเดียที่เป็นกองทัพอวตาร แก้วสามประการที่พยายามบังคับกดทับกดทับ ด้อยค่า แต่ให้สมาชิกวุฒิสภา มีส่วนร่วมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญและผ่าน เสียงประชามติมาแล้ว
มี ส.ว. บางส่วน ที่จะปิดสวิตช์ตัวเองที่เสมือนจะบวชเป็นพระไปตลอดชีวิต จนกว่าจะพ้นวาระการดำรงตำแหน่ง ก็ยังถูกขุด อ้อนวอนและไปขู่ บูลลี่และใช้ภาวะแวดล้อมต่างๆ ไปปลุกท่านขึ้นมามาใช้สิทธิ์ซึ่งตนเองและสมาชิกทุกคนก็โดนทุกรูปแบบ ทางครอบครัวตัวบุคคลและสภาพแวดล้อมแต่ทั้ง 250 คนยืนยันว่า ส.ว.ทั้งหมด เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างสมบูรณ์มีสิทธิ์ในคะแนนเสียงเช่นเดียวกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งแม้จะมาจากการสรรหาก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "ชัยธวัช" แจงปมแก้ไขความผิดหมิ่นประมาทตาม ม.112 ในอดีตเคยมีมาก่อนแล้ว
• "พิธา" แจง นโยบายต่างประเทศ ยัน ไทยต้องเป็นรัฐเดี่ยว-ไม่มีแบ่งแยกดินแดน
• ชาดา ไทยเศรษฐ์ ประวัติ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายดุ ทำสภาเดือด
เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่ของ ส.ว. วันนี้จากกระทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติซึ่งสถาบันหลักคือชาติศาสนาพระมหากษัตริย์เป็นที่ตั้ง
ก่อนจะนำเอกสารหลักฐาน ร่างแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกล เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ที่ระบุว่า ยกเลิก ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะกำหนดลักษณะความผิด นอกจากนี้ผู้ที่แสดงความใดๆ โดยความบริสุทธ์ไม่มีความผิด และให้ผู้ถูกกล่าวหาผู้ที่กระทำความผิด หากความผิดนั้นเป็นความจริงไม่ต้องรับโทษ พร้อมทั้งกำหนดให้ความผิดลักษณะนี้เป็นความผิดที่ยอมความได้ ซึ่งเป็นการทำให้ความผิดฐานหมิ่นประมาทมาตราพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท องค์รัชทายาท ลดลง เท่ากับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา
ในช่วงท้าย นายสมชาย ยังมีข้อสงสัยต่อตัวตนของนายพิธา ทั้งเรื่องความจงรักภักดี ความพยายามในการดำเนินการนิรโทษกรรม คดี 112 มีการบิดเบือนด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้วาทะกรรมกล้าวหาผู้เห็นต่าง พร้อมยังเห็นว่า การทำหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ตนจึงเห็นว่า นายพิธา ยังไม่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี