“เศรษฐา” ปัดเสียบนายกฯ เชื่อ เก้าอี้ประธานสภาฯ ทุกฝ่ายแฮปปี้

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ดูธนาคารน้ำที่จังหวัดนครพนม โดยผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยอมถอยตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล เพื่อเตรียมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแทนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา นายเศรษฐา มองว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงจากหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมถึงฝ่ายเจรจาก่อน ตนเองไม่อยู่ในกระบวนการการเจรจา แต่อยู่ในกระบวนการทำงานมากกว่า ยังไม่อยากให้มองไปไกล เพราะต้องผ่านขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯ ก่อน ขอให้อดใจรอ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยึดมั่นหลักการฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือทำงานร่วมกัน และมั่นใจเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ จบลงด้วยดี ทุกฝ่ายแฮปปี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

• วาทะเดือด! ปมร้อนเสนอ "เปลี่ยนวันชาติ" ก้าวไกลลั่นแค่พูดถึงประวัติศาสตร์

• ทีมเศรษฐกิจ “พรรคเพื่อไทย” ถกแนวทางสร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ

เมื่อถามย้ำว่า แม้ตัวนายพิธา จะมีความพร้อม แต่มีขวากหนามอีกหลายอย่างที่อาจทำให้นายพิธา ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพื่อไทยพร้อมที่จะไปนั่งนายกรัฐมนตรีแทนหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่าตนยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้ต้องพยายามให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน และพรรคเพื่อไทยย้ำมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดันให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน

เมื่อถามถึงกรณีแผนสำรอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา นายเศรษฐาพร้อมที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายเศรษฐา ย้ำว่ายังไม่คิด เพราะยังไม่ถึงวันนั้น ขอเป็นไปทีละขั้นตอน เราต้องช่วยกันผ่านด่านประธานสภาฯ ให้ได้ก่อน โดยไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่าย แล้วค่อยเป็นขั้นตอนการเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็อยากให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนการลงพื้นที่ในวันนี้ได้ศึกษาดูการบริหารจัดการธนาคารน้ำใต้ดิน นอกเขตชลประทาน ซึ่งจังหวัดนครพนมถือเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำได้ และต้องเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะสถานการณ์น้ำในปีนี้ อาจจะได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ยากเรื่องของเอลนีโญ โดยธนาคารน้ำใต้ดินจะช่วยให้แต่ละพื้นที่กักเก็บน้ำได้ แต่ถ้าจะนำโมเดลนี้ไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นๆ ก็จะต้องศึกษาวิเคราะห์เป็นรายพื้นที่ และควรทำอย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในเรื่องนี้

โดยนายเศรษฐา ยอมรับว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นกระทรวงหนึ่งที่เคยคุยว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามารับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะมีการแบ่งจัดสรรตำแหน่งว่าการและรัฐมนตรีช่วยอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้องจะหารือกัน