svasdssvasds

ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

จับตา ดีลลับ “เพื่อไทย” กับ “พลังประชารัฐ” ดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ แลกกับการได้เป็นรัฐบาล และ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้กลับบ้าน ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเพียงจินตนาการ หรือเป็นอีกหนึ่งเรื่องจริง ที่สร้างบาดแผลให้กับการเมืองไทย

“การเมืองไทย” ยังหาความชัดเจนไม่ได้ ท่ามกลางความขัดแย้งของ “พรรคก้าวไกล” กับ “พรรคเพื่อไทย” ในศึกชิงเก้าอี้ “ประธานสภา” ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนยันว่า เก้าอี้ดังกล่าวต้องเป็นของตน

ซึ่งระหว่างที่เกมดำเนินไปอย่างดุเดือด ชื่อของ “บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ก็โผล่ขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับข่าวสะพัดดีลลับการสลับขั้วจัดตั้งรัฐบาล โดย “บิ๊กป้อม” นี่แหละ อาจเป็นนายกฯ คนต่อไป

แต่ตรงนี้อาจเป็นเพียงจินตนาการทางการเมือง ส่วนจะมีโอกาสกลายเป็นความจริงได้หรือไม่ ก็ต้องไล่เรียงความเป็นมาของสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน ดังต่อไปนี้

ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

1. ถ้าสมมติว่า ดีลลับ ภาค 1 ก่อนการเลือกตั้ง มีอยู่จริง

ข่าวสะพัดดีลลับ ภาค 1 “เพื่อไทย” กับ “พลังประชารัฐ” จะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 และได้มีการหยิบยกขึ้นมาขยี้อย่างหนักหน่วงในช่วงศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา  

ซึ่งในช่วงแรกๆ แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ได้ปฏิเสธว่า ดีลลับดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่ยอมให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นว่า จะไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับ “พรรคพลังประชารัฐ”

และจากความไม่ชัดเจนตรงนี้ ก็ได้เปิดช่องให้ “ก้าวไกล” สร้างคะแนนนิยมได้อย่างถล่มทลาย ด้วยแคมเปญ “มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา” บีบให้ “เพื่อไทย” ต้องประกาศ “ไม่เอา 2 ลุง” ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง

แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้ง ที่ “พรรคก้าวไกล” สร้างเซอร์ไพรส์ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และรวบรวมเสียง ส.ส. ได้ 312 เสียง สามารถเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ แต่ก็ยังติดด่าน ส.ว. ซึ่งผู้จะเป็นนายกฯ จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง 2 สภา จำนวน 376 เสียงขึ้นไป

และนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ “พรรคก้าวไกล” ต้องยึดเก้าอี้ “ประธานสภา” ไว้ให้มั่น เพราะถึงแม้ “พิธา” อาจไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ “พรรคก้าวไกล” ก็ยังมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลอยู่ หากสมมติว่าดีลลับระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “พลังประชารัฐ” นั้นมีอยู่จริงๆ

บทความที่น่าสนใจ

ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

2. “ส.ว.” อำนาจต่อรองของ “พลังประชารัฐ” ในการโหวตเลือกนายกฯ

หลังการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ “พรรคเพื่อไทย” ประกาศร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ “พรรคก้าวไกล” เพื่อผลักดันให้เกิดรัฐบาลเสรีนิยม ตามเจตนารมณ์ของประชาชน แต่ก็ไม่วายมีข่าวสะพัดดีลลับ ภาค 2 ออกมาอีก ด้วยสูตรพิสดารที่ว่า “บิ๊กป้อม” จะลาออกจาก “พลังประชารัฐ” หลังจากนั้นจะมีการยุบพรรค แล้วให้ ส.ส. ทั้งหมด เข้าสังกัด “พรรคเพื่อไทย” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีว่า ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

ต่อมาทั้งแกนนำ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคประชารัฐ” ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง หลังจากนั้น ข่าวสะพัดดีลลับ ภาค 2 ก็ค่อยๆ ซาลง จนเงียบหายไปในที่สุด

ส่วนในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ต้องขอบอกว่า โอกาสที่ ส.ว. 64 คนขึ้นไปจะโหวตให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ยังมีความเป็นได้น้อยมาก โดยมีการวิเคราะห์ว่า ในการโหวตนายกฯ ครั้งแรก หาก “พิธา” ได้คะแนนเสียงไม่ถึง 376 เสียง ก็จะมีการสลับให้ “เพื่อไทย” ขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ แต่สูตรนี้ก็ยังไม่เป็นที่การันตี 100 % ว่าจะมี ส.ว. 64 คนขึ้นไปโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จาก “พรรคเพื่อไทย” หรือไม่

แต่ถ้าเป็นกรณีการตั้งรัฐบาลรักข้ามขั้ว โดยมี “พรรคเพื่อไทย” , “พลังประชารัฐ” และ “พรรคภูมิใจไทย” ร่วมกับพรรคอื่นๆ ทั้งในฝั่งอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยม ส่วน “พรรคก้าวไกล” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” กลายเป็นฝ่ายค้าน ก็มีโอกาสจะได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มี ส.ส. เกิน 250 เสียง และได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ในวันโหวตเลือกนายกฯ จนทำให้เสียงของทั้ง 2 สภาทะลุ 376 เสียง ได้ไม่ยากนัก

โดยการจัดตั้งรัฐบาลรักข้ามขั้ว ก็มีข้อแม้อยู่ว่า ต้องได้เก้าอี้ “ประธานสภา” ด้วย ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมามากมาย และตรงนี้ก็บังเอิญอีกเช่นกันที่สอดคล้องกับท่าทีของ “พรรคเพื่อไทย” ในการเปิดศึกชิงเก้าอี้ “ประธานสภา” กับ “พรรคก้าวไกล” ทำให้เกิดข่าวสะพัด ดีลลับภาค 3 ตามมาในที่สุด

ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

3. ดีลลับภาค 3 และกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร

แม้ขั้วรัฐบาลเดิม จะแพ้เลือกตั้งครั้งนี้อย่างยับเยิน โดยเฉพาะ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ได้เพียง 40 เก้าอี้ ส.ส. แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม 3 ป. ได้มีการจัดวางกลไกอำนาจอย่างครอบคลุมทุกภาคส่วน รวมถึงมีคอนเนคชั่นที่แน่นปึ๊กกับ ส.ว. ที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการโหวตเลือกนายกฯ

ดังนั้นในกรณีของ “พรรคเพื่อไทย” หากจับมือกับ “พลังประชารัฐ” ก็จะการันตีการเป็นรัฐบาลแน่ๆ รวมถึงการได้กลับบ้านสมใจอยากของ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ข้อแลกเปลี่ยนอาจสูงถึงขั้นต้องยอมยกเก้าอี้นายกฯ ให้กับ “บิ๊กป้อม”

แต่สิ่งที่ต้องสูญเสียยิ่งกว่านั้น นั่นก็คือ “ศรัทธาประชาชน” ในกรณีที่ดีลลับดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง  

related