svasdssvasds

กกต. ขอใช้เวลา วินิจฉัยคุณสมบัติ พิธา ถือหุ้นสื่อ ต้องให้ความเป็นธรรม

กกต. ขอใช้เวลา วินิจฉัยคุณสมบัติ พิธา ถือหุ้นสื่อ ต้องให้ความเป็นธรรม

"กกต." ไม่เร่งวินิจฉัยคุณสมบัติ "พิธา" ถือหุ้นสื่อ ส่อไม่ทันก่อนเลือกตั้ง อ้างเหลือเวลาน้อย ต้องให้ความเป็นธรรม เผย มีผู้สมัครบัญชีรายชื่อฟ้องล้มละลาย เร่งหาข้อเท็จจริงเพิ่มก่อนส่งศาลพิจารณา

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีมีการร้องเรียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวี ว่า ตนยังไม่เห็นคำร้อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นการร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติ มีขั้นตอนตามกฎหมาย มีอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนวันเลือกตั้ง ช่วงหลังวันเลือกตั้ง และช่วงประกาศผลการเลือกตั้ง โดยก่อนการเลือกตั้ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยกรเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 61 ถ้า กกต. ตรวจสอบแล้ว เห็นว่า ไม่มีคุณสมบัติให้ยื่นต่อศาลฎีกาพิจารณา

"ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 2 วัน แต่หากดำเนินการไม่ทัน หลังการเลือกตั้ง ก่อนการประกาศผล ถ้าเห็นว่า ผู้นั้นมีลักษณะต้องห้ามในการลงรับสมัครรับเลือกตั้ง กกต. ก็จะมีมติให้ดำเนินคดีอาญามาตรา 151 ฐานรู้อยู่แล้วว่า มีมีคุณสมบัติในการสมัคร แต่ก็ยังลงสมัคร" เลขาธิการกกต. กล่าว

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

นายแสวง กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในการดำเนินการดังกล่าว จะไม่เป็นเหตุให้นำไปสู่การไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง ดังนั้นก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน จากนั้นจะเป็นการดำเนินการหลังการประกาศผล มีรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งได้กำหนดช่องทางในการดำเนินการไว้ ทั้งให้ ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กกต. เป็นผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ไม่รีบยื่น-พิจารณา เพราะต้องให้ความเป็นธรรม

ส่วนที่ กกต.ไม่ยื่นให้ศาลฎีกาพิจารณาดำเนินการก่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้ายื่นหลังการเลือกตั้งจะมีผลกระทบมากกว่านั้น นายแสวง กล่าวว่า ทุกอย่างมีกระบวนการที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เมื่อมีเรื่องร้องเรียน สำนักงานก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหา ก่อนนำเสนอให้ กกต. พิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลา

อย่างเช่นวันนี้ (11 พ.ค.) หน่วยงานที่ กกต. ได้ขอความร่วมมือในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพิ่งส่งข้อมูลล่าสุดมาให้ พบว่า มีผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ คนหนึ่งถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่กกต.เห็นว่า จำเป็นต้องให้ความเป็นธรรม และได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติก่อน

จึงให้สำนักงานไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า คำสั่งล้มละลายยังมีผลอยู่หรือไม่ และผู้ถูกกล่าวได้ได้มีการดำเนินการในเรื่องของการต่อสู้อย่างไรหรือไม่  จากนั้น กรรมการค่อยมาพิจารณาเรื่องกรยื่นต่อศาล ดังนั้น จึงต้องแยกเรื่องกระบวนการให้ความเป็นธรรม กับผลกระทบออกจากกัน

related