svasdssvasds

คำต่อคำ ประเด็นร้อน ม.112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร ก้าวไกล ทำสับสน แก้ไข หรือ ยกเลิก ?

คำต่อคำ ประเด็นร้อน  ม.112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร  ก้าวไกล ทำสับสน แก้ไข หรือ ยกเลิก ?

ถอดคำพูด วลีเด็ด คำต่อคำ ประเด็นร้อน ม.112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร โดย อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดนจี้ ก้าวไกลจ้องยกเลิก ม.112 หรือจะแก้ไขเอาให้ชัด ชี้ สังคมจับจ้องมาตลอดกับวาทะกรรมสุดโต่ง "ล้มเจ้า"

ถอดคำพูด วลีเด็ด คำต่อคำ ประเด็นร้อน  ม.112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร  กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ กับการถกเรื่อง มาตรา 112  ก่อนการเลือกตั้ง 2566 ซึ่งจัดทางช่อง 8 ผ่านรายการยืนหนึ่ง ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล  

ความร้อนแรงของประเด็น มาตรา 112 กลายเป็นว่าถูกจับจ้องอีกครั้ง จากการดีเบตกันระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ในรายการยืนหนึ่งชิงนายก ที่จัดโดยช่อง 8 ในประเด็น มาตรา 112 ก้าวไกล ทำสับสน บางวันจะแก้ไข  บางวัน ยกเลิก ? 

นายอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ แสดงความเห็นอย่างร้อนแรง โดยได้กล่าวว่า “เอาตรงๆ ที่คนมองว่าเป็นเรื่องสุดโต่งมันเป็นประเด็นเรื่องเงื่อนไข ม.112 ซึ่ง ม.112 ก็มีความสับสนอีก เพราะว่าคุณพิธา บางวันก็บอกว่ายกเลิก บางวันก็บอกว่าแก้ 3 ประเด็น ถ้าเป็นแค่เรื่องแก้ไขบางผมว่าบางคนก็มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่ถ้าบอกว่ายกถูกก็ถูกมองว่าสุดโต่ง”

คำต่อคำ ประเด็นร้อน  ปม มาตรา 112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร  : ก้าวไกล ทำสับสน จะแก้ไข หรือ ยกเลิก ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายธนาธร ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “อันนี้ผมว่าคุณอภิสิทธิ์ เข้าใจผิดแน่ๆ เลยนะครับ ไม่เคยมีใครบอกว่ายกเลิก”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “คุณพิธา ได้ไปติกสติกเกอร์บนเวทีว่ายกเลิกหรือแก้ไข” 

นายธนาธร ได้แก้ต่างว่า “อันนั้นบังคับ Yes or No แต่นโยบายพรรค ไม่ใช่แค่พูด ทำไปแล้ว เสนอกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ”

นายอภิสิทธิ์ ได้ถามกลับว่า “แล้วทำไมถึงไปติดสติ๊กเกอร์ตรงยกเลิก  แทนที่จะติดว่าแก้ไข ”

คำต่อคำ ประเด็นร้อน  ปม มาตรา 112 อภิสิทธิ์ VS ธนาธร  : ก้าวไกล ทำสับสน จะแก้ไข หรือ ยกเลิก ?

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้แจง "เขาไม่ได้พูดในเวทีสาธารณะที่ไหนเลย"

นายอภิสิทธิ์ ย้ำอีกครั้ง  "เขา (พิธา) ติดสติกเกอร์บนเวทีปราศรัย"

นายธนาธร ได้ให้คำตอบว่า “อันนั้นคุณพิธา อาจจะคิดได้ในนามส่วนตัว”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “แต่คุณพิธา เป็นหัวหน้าพรรค”

นายธนาธร ได้ย้อนไปว่า “คุณอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคหรือเปล่าครับ ในการเลือกตังครั้งที่แล้ว แล้วคุณพูดว่าอะไรครับ”

 

นายอภิสิทธิ์ จึงได้ตอกกลับไปว่า

“ผมพูดแล้วผมลาออกครับ แล้วคุณพิธาจะลาออกไหมครับ ถ้าไม่ยกเลิก”

 

นายธนาธร ยังได้แก้ต่างอีกว่า “เขาไม่ได้พูดในเวทีสาธารณะเลยว่าจะยกเลิก  ส่วนการติดสติกเกอร์เป็นความเห็นส่วนตัว”

โดยพิธีกร พุทธ อภิวรรณ ได้ตั้งคำถามว่า “มันแยกได้เหรอครับ เขาเป็นหัวหน้าพรรค กับส่วนตัว เขาคือแคนดิเดตนายกฯ เลยนะ”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “ลองกลับไปอ่านสิ่งที่คุณพิธาพูดนะครับ ว่าคุณพิธาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไง การเสนอแก้ไขเป็นวิธีที่ดีที่สุด  ถ้าเสนอแก้ไขเพื่อให้พูดจากันได้ ยังทำไม่ได้ ก็ต้องอาจเสนอยกเลิก นี่คือสิ่งที่เขาพูด ไปลองฟังดูสิครับ”

พุทธ ได้ถามย้ำกับ ธนาธร อีกว่า “เริ่มจากแก้ แต่การที่ไปติดสติกเกอร์ยกเลิกนี่กำลังจะหมายความว่าอย่างไร”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “มันเรื่องส่วนตัวของเขา เขาจะไปติดอะไรก็ค่อยว่ากัน”

นายอภิสิทธิ์ ได้ตั้งคำถามอีกว่า “บังเอิญอันนี้ไม่ใช่ว่าคุณพิธาไปเดินอยู่แล้วมีคนมาให้ติดสติ๊กเกอร์โดยที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันอยู่บนเวทีเลย และเขาเองก็พูดด้วย ซึ่งผมเองไม่ได้ติดใจอะไรนะถ้าคุณพิธามาบอกว่าเปลี่ยนแปลงแล้วนี่คือนโยบาย”


นายธนาธร ได้ตอบว่า

“ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง คุณพิธาก็พูดทันทีหลังจากนั้น  ไปฟังดูสิครับคุณอภิสิทธิ์ อาจจะไม่ได้ฟังนะครับเรื่องนี้ เขาก็พูดอย่างนี้ชัดเจน ...เราเสนอไปแล้วอยู่ในประธานผู้แทนราษฎร ซึ่งประธานสภาไม่ยอมให้เข้า ไม่ยอมให้วาระนี้บรรจุ ซึ่งเราเสนอ หวังว่ามันจะได้เข้าไป แล้วจะได้ไปถกเถียงกัน สุดโต่งหรือไม่สุดโต่ง  ไม่รู้ มันอยู่ที่สภา ถ้า ส.ส. ส่วนใหญ่ไม่รับ ก็ตกไปเอง ไม่มีอะไร”

 

พุทธ ได้ทิ้งคำถามปิดท้ายว่า “เพราะเขายังไม่มั่นใจในท่าทีลึกๆ ของหัวหน้าพรรคของคุณว่าคืออะไร”

นายธนาธร ได้ตอบปิดท้ายไปว่า “ก็เสนอไปแล้วว่ามันเป็นการแก้ไข เนื้อหารายละเอียดคงไม่ต้องพูด เพราะทุกคนรู้อยู่แล้ว” 


ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการคุย ประเด็น มาตรา 112  นายธนาธร กล่าวอีกว่า ถ้าคิดว่าวาระที่ก้าวหน้าแบบนี้เป็นเรื่องสุดโต่งหรือไม่ ให้ดูคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์พรรคก้าวไกล หากพรรคได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มมากขึ้น แปลว่าประชาชนเปิดใจรับฟัง และมีวุฒิภาวะพอ จะมีแต่นักการเมืองที่กลัวตัวเองสูญเสียประโยชน์เท่านั้น ที่หวาดระแวงเรื่องนี้อยู่

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่า หากนายธนาธร เห็นว่าคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก้าวไกลจะเป็นตัววัด ตนคิดว่าลำบาก เพราะตนก็รู้จักคนจำนวนไม่น้อย ที่สนับสนุนวาระอื่น ๆ ของพรรคก้าวไกล พร้อมที่จะให้โอกาส แต่ไม่ได้สนับสนุนเรื่องนี้ โดยจะไปเหมารวมว่าเสียงทั้งหมดจะสนับสนุนเรื่องนี้ คงจะไม่ได้ ยกเว้นว่านายธนาธร จะยืนยันตรงนี้ว่า ใครไม่สนับสนุนเรื่องมาตรา 112 อย่าเลือกพรรคก้าวไกล ซึ่งนายธนาธรอ้างว่า นโยบายทั้งหมดของพรรคก้าวไกล มันคือการมัดรวมกันเป็นข้อคิดเดียว
 

related