กลายเป็นประเด็น ดราม่าบัตรเลือกตั้ง 2566 เมื่อมีการเปิดเผย บัตรเลือกตั้ง 66 ถึงมือผู้เลือกตั้งในต่างประเทศแล้ว และหลายๆคน ยังไม่เข้าใจว่า บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั่วประเทศ 400 เขต ใช้สีม่วง ) ขณะที่ บัตรเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ใช้สีเขียว
กลายเป็นประเด็น ดราม่าบัตรเลือกตั้ง 2566 เมื่อมีการเปิดเผย บัตรเลือกตั้ง 2566 ถึงมือผู้เลือกตั้งในต่างประเทศแล้ว และหลายๆคน ยังไม่เข้าใจว่า บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั่วประเทศ 400 เขต ใช้สีม่วง (ไม่มีสัญลักษณ์พรรคใดๆ ) ขณะที่ บัตรเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ใช้สีเขียว บัตรนี้จะมี สัญลักษณ์พรรค และ ชื่อพรรค ชัดเจน
ดราม่าบัตรเลือกตั้ง 2566 , โลกออนไลน์มีการตั้งคำถามมากมาย ว่าบัตรทั้ง 2 ใบ มีความต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความต่างของบัตรเลือกตั้ง 2566 ทั้ง ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ กกต. เคยชี้แจงออกมาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยในโซเชียลมีการตั้งคำถามว่า
"พื้นที่ในบัตรเหลือเยอะแยะ ทำไมไม่ใส่ชื่อผู้สมัครลงไปด้วย"
ในกรณีของบัตรสีม่วง เลือก ส.ส. แบบแบ่งเขต , เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าที่เรากานอกเขตเลือกตั้งมันจะส่งไปยังเขตที่เรามีรายชื่อยู่ เป็นต้น
ที่ผ่านมา นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. กล่าวว่า บัตรเลือกตั้ง 2566 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ จะใช้บัตรมาตรฐาน เหมือนการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ยกเว้น ปี 2562 ที่ใช้บัตรเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ โดยข้อดีของบัตรมาตราฐานแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีความชัดเจนแตกต่างจากบัตรแบบบัญชีรายชื่อ นอกจากสีจะต่างกันแล้ว องค์ประกอบภายในบัตรก็จะต่างกัน ทำให้ประชาชนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่สับสน เพราะบัตรประเภทหนึ่งมีเพียงหมายเลข ไม่มีตัวหนังสือ และสัญลักษณ์ใด ต่างจากบัตรอีกประเภทหนึ่งมีครบทั้ง 3 อย่าง เป็นการป้องกันบัตรเสียอันเกิดจากความสับสนลักษณ์นี้อีกทางหนึ่งด้วยและยังประหยัดงบประมาณเป็นจำนวนมาก เพราะบัตรมาตราฐานพิมพ์ พร้อมกันในครั้งเดียว แต่บัตรแบบเฉพาะเขต ต้องสั่งพิมพ์ 400 ครั้ง ตามจำนวนเขต เมื่อปริมาณพิมพ์ต่อครั้งมีจำนวนน้อย จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อครั้งใช้เงินจำนวนมากขึ้น และสะดวกในการบริหารจัดการ นำเวลาที่ต้องมาทำงานธุรการ อาทิ การส่งให้ตรงกับเขต กรณีเป็นแบบเฉพาะ ถ้าส่งผิดเขตจะใช้แทนกันไม่ได้ การพิมพ์บัตรสำรองในแต่ละเขต ก็ต้องมีสำรองครบตามจำนวนเขต เพราะใช้แทนกันไม่ได้ ทำให้สามารถนำเวลาที่เหลือจากงานธุรการไปทำงานอื่นให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากกว่า