ระวัง! กกต.ออกโรงเตือนพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร หลังหาเสียงโพสต์โชว์บัตรเลือกตั้งใกล้เคียงบัตรจริง อาจเป็นเหตุนำไปสู่การวินิจฉัย ล่าสุดเผยภาพและสีบัตรเลือกตั้งแล้ว
หลังจากที่ กกต. ได้ออกมายืนยันแล้วว่า บัตรเลือกตั้ง 2566 ที่ใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ จะใช้สีเขียว , และบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ทั่วประเทศ 400 เขต ใช้สีม่วง
จากกรณีที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยร่วมใจกันโพสต์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยปรากฎลักษณะ สี ของบัตรใกล้เคียงกับบัตรเลือกตั้งจริงเพื่อใช้ในการหาเสียง ซึ่งเป็นการดำเนินการภายหลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยสีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สำนักงาน กกต.ออกมาย้ำเตือนผู้สมัครและพรรคการเมืองให้ควรพึงระวังในการหาเสียง โดยผู้สมัครและพรรคสามารถจัดทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองได้เพื่อใช้ในการหาเสียง แต่ต้องไม่มีขนาด ลักษณะหรือสีที่คล้ายกับบัตรเลือกตั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ตัวอย่างบัตรเลือกตั้ง 2566 เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อใช้สีเขียว - ส.ส.เขต สีม่วง
• บัตรเลือกตั้ง 2566 สีอะไร กกต.เผย ส.ส.บัญชีรายชื่อใช้สีเขียว - ส.ส.เขต สีม่วง
• รู้จัก บัตรเลือกตั้ง 2566 ทั้ง 2 แบบ บัตรเลือกตั้งแบ่งเขต และ แบบบัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ กกต.อาจนำมาเป็นเหตุในการสืบสวนหรือไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาดได้ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการหาเสียงได้จากระเบียบกกตว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. 2561 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) 2565
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า
รู้จักบัตรเลือกตั้ง 2 ใบก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง
ก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มาทำความเข้าใจเพื่อป้องกันความสับสน ในการลงคะแนนเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
บัตรเลือกตั้ง 2 ใบต่างกันอย่างไร
ใบที่ 1 : บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (สีม่วง) มีหมายเลขผู้สมัคร และ ช่องสำหรับกากบาท โดยไม่มีชื่อผู้สมัครและโลโก้พรรค
ใบที่ 2 : บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (สีเขียว) มีสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายของพรรคการเมือง และ มีชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้ง
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง