อัปเดต ศึกตั้งรัฐบาล สถานการณ์ก้าวไกลดีขึ้น แต่ยังไม่ชัวร์ พิธานั่งนายกฯ

หลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม แม้ “พรรคก้าวไกล” จะได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 1 แต่ก็มีเงื่อนไขต่างๆ มากมายเหลือเกิน ที่ทำให้เห็นว่าโอกาสที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จะได้เป็นนายกฯ นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย แต่มาถึงวันนี้ (20 มิถุนายน) ก็ต้องขอบอกว่า สถานการณ์ของ “ก้าวไกล” เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยมี “สัญญาณบวก” ดังต่อไปนี้

สัญญาณบวก

1. ศึกหุ้นสื่อไอทีวี 

ในประเด็น “การถือหุ้นสื่อไอทีวี” ที่ก่อนหน้านี้ กูรูการเมืองหลายคนวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า น่าจะรอดยาก แต่เกมก็เริ่มพลิก หลังจากมีการเผยแพร่คลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีในวันที่ 26 เมษายน ที่คำตอบของประธานในที่ประชุม ไม่ตรงกับรายงานการประชุม

หลังจากนั้นก็ได้มีการชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ โดยเฉพาะใน “งบแสดงสถานะทางการเงินของไอทีวีและบริษัทย่อย” ที่ก่อให้เกิดคำถามต่างๆ ตามมากมาย อีกทั้งผู้เกี่ยวข้องก็ให้คำตอบได้ไม่ชัด ทำให้น้ำหนักเรื่อง “การถือหุ้นไอทีวี” อ่อนยวบลงไปเป็นอย่างมาก และหลังจากนั้น ก็มีอีกสัญญาณบวกอื่นๆ ตามมาติดๆ

บทความที่น่าสนใจ

• ทางรอดของ “พิธา” ? หลุดคดีหุ้นไอทีวี สู่นายกฯ คนที่ 30

• ทำความรู้จักแนวคิด Neo-Conservative อนุรักษ์นิยมใหม่ คืออะไร ?

• อัปเดตสถานการณ์ของ “พิธา” ยังเหลืออีกกี่ด่าน ถึงได้เป็นนายกฯ

2. “เพื่อไทย” ส่งสัญญาณ เปิดทางให้ “ก้าวไกล” ได้เก้าอี้ “ประธานสภา”

ด้วยเก้าอี้ “ประธานสภา” เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ที่หาก “พรรคก้าวไกล” พลาดตำแหน่งนี้ นอกจากจะทำให้โอกาสการเป็นนายกฯ ของ “พิธา” น้อยลงไปแล้ว ยังอาจสุ่มเสี่ยงไม่ได้เป็นรัฐบาลอีกด้วย

ดังนั้นที่ผ่านมา “พรรคก้าวไกล” จึงใช้ความชอบธรรมในการเป็นพรรคอันดับ 1 ยึดเก้าอี้ “ประธานสภา” เอาไว้ให้ได้ เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่ถูกหักเหลี่ยมกลางสภา สามารคุมเกมได้ในวันโหวตเลือกนายกฯ และเป็นหลักประกัน อย่างน้อยๆ ก็ได้เป็นรัฐบาลแน่ๆ  

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2 แกนนำคนสำคัญของ “พรรคเพื่อไทย” คือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ  “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า จะยึดหลักการ พรรคอันดับ 1 ควรได้เก้าอี้ “ประธานสภา” แต่ด้วยคะแนนเสียงที่สูสีกัน ดังนั้นแล้วพรรคอันดับ 2 ต้องได้ 2 เก้าอี้ “รองประธานสภา”

แม้การให้สัมภาษณ์ในวันต่อมา (19 มิถุนายน) “ภูมิธรรม” จะสัมภาษณ์ในประเด็นเก้าอี้ “ประธานสภา” แบบออกอาการยึกยัก แต่คาดว่า สุดท้ายแล้ว “ก้าวไกล” น่าจะได้เก้าอี้นี้ไปครองในที่สุด

นอกจากกว่าจะมี ส.ส. แตกทัพจากบางพรรค ย้ายเข้ามาซบ จนทำให้ “พรรคเพื่อไทย” กลายเป็นพรรคที่มี ส.ส. มากที่สุด แล้วอ้างว่า ตัวเองคือพรรคอันดับ 1 จึงต้องได้เก้าอี้ “ประธานสภา” ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่า “เพื่อไทย” จะกล้าหรือเปล่า จะกล้าแลกกับ “ความสง่างามทางการเมือง” หรือไม่ ? 

3. การประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้ง 500 คน 

การประกาศรับรอง ส.ส. ทั้ง 500 คน ของ กกต. ที่เร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ ส่วนหนึ่งก็อาจมาจากแรงกดดันกรณีมีเอกสารเสนอไม่ให้รับรอง 71 ว่าที่ ส.ส. ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แม้หลังจากนี้ กกต. ยังอาจตามสอย ส.ส. บางคนให้หลุดจากตำแหน่งได้ แต่การประกาศรับรองทั้งหมดไปก่อน ก็ทำให้สังคมรู้สึกว่า การเมืองไทยสามารถเดินต่อไปข้างหน้า หลังจากดูอึมครึม ไม่ชัดเจนมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน

สัญญาณไม่ชัด

โอกาสที่ ส.ว. จะโหวตให้ “พิธา” จนได้เสียง 376 ขึ้นไป ยังเป็นไปได้ยาก

แม้สถานการณ์ของ “พรรคก้าวไกล” จะดีขึ้นตามลำดับ แต่หากเช็กจากฟากฝั่ง ส.ว. ที่จะโหวตให้ “พิธา” ได้เป็นนายกฯ ตัวเลขยังอยู่ในระดับที่น้อยมาก และถึงแม้น้ำหนักเรื่อง “การถือหุ้นสื่อไอทีวี”จะเบาลง แต่ก็ยังมีประเด็นอื่นๆ อีก ที่เหล่า ส.ว. สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการไม่โหวตให้ “พิธา” ได้

ดังนั้นแล้ว เมื่อถึงวันโหวตเลือกนายกฯ การตั้งรัฐบาลในสูตร “รัฐบาลก้าวไกล” ที่มี “พรรคก้าวไกล” เป็นแกนนำ โดยเป็นรัฐบาลผสม 8 พรรค ยังมีโอกาสพลิกผันอยู่

ในขณะที่แนวโน้มสูตร “รัฐบาลส้มหล่น” ที่สลับให้ “พรรคเพื่อไทย” ขึ้นมาเป็นแกนนำ รวมถึงอาจมีบางพรรคในฝั่งรัฐบาลเดิม เช่น “พรรคภูมิใจไทย” เข้ามาเติมเสียงเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.  ชั่วโมงนี้ก็ต้องขอบอกว่า มีความเป็นได้มากกว่าสูตร “รัฐบาลก้าวไกล” ส่วนสูตร “รักสลับขั้ว” ที่บีบให้ “ก้าวไกล” ไปเป็นฝ่ายค้าน ณ เวลานี้ก็ต้องขอบอกว่า สถานการณ์ไม่เป็นใจ ทำให้แนวโน้มเกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน

และสุดท้ายนี้ SPRiNG ขอปิดบทความด้วยการอัปเดต ความน่าจะเป็น “สูตรจัดตั้งรัฐบาลใหม่” ดังต่อไปนี้

1. สูตรรัฐบาลก้าวไกล

ก้าวไกล + เพื่อไทย + ประชาชาติ + ไทยสร้างไทย + เสรีรวมไทย + เพื่อไทยรวมพลัง + เป็นธรรม + พลังสังคมใหม่ จำนวนเสียงทั้งหมด 312 เสียง “ก้าวไกล” เป็นแกนนำ “พิธา” เป็นนายก ความน่าจะเป็น 30 %

2. สูตรรัฐบาลส้มหล่น

เพื่อไทย + ก้าวไกล + ประชาชาติ + ไทยสร้างไทย + เสรีรวมไทย + เพื่อไทยรวมพลัง + เป็นธรรม + พลังสังคมใหม่ จำนวนเสียงทั้งหมด 312 เสียง หรืออาจดึง “พรรคภูมิใจไทย” เข้าร่วม ก็จะได้ ส.ส. 383 คน โดย “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ  ความน่าจะเป็น 60 %

3. สูตรรักสลับขั้ว

“เพื่อไทย” สลับขั้ว ร่วมกับพรรครัฐบาลเดิม (ส่วนใหญ่) จัดตั้งรัฐบาล บีบ “ก้าวไกล” ไปเป็นฝ่ายค้าน ความน่าจะเป็น 10 %