ปิยบุตร ชี้ กกต. ไม่ควรเฉือน เขตเลือกตั้งให้ประชาชนสับสน บางพรรคเสียเปรียบ

ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กับ SPRiNG ในประเด็นที่มีความร้อนแรงก่อนเลือกตั้ง 2566 เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่อาจจะสร้างความสับสนให้ประชาชน และหลายๆพรรคการเมืองออกมา โวย กกต.  

"การแบ่งเขตเลือกตั้ง มันควรจะเทียบเคียงกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เพราะ ข้อที่ 1 ใน กทม. มันเพิ่มเป็น 33 คน 33 เขต ถือว่าแตกต่างจากครั้งที่แล้ว 

"ข้อที่ 2 ผมเข้าใจว่า กทม. มี 50 เขต ที่นี่ เวลาแบ่งมันไม่ควรแบ่ง แบบเฉือนเอาเขตหนึ่งเป็นหลายเขตเลือกตั้ง"

ข้อที่ 3 ในระยะยาวแล้ว ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งของไทย มันไม่มี่ความชัดเจนเลย ในการกำหนดเขตเลือกตั้ง  ครั้งที่แล้ว ผู้สมัครเลือกตั้งเขาทำงานในพื้นที่แล้ว แต่พอครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอีก เปลี่ยนอีก ไปเรื่อยๆ แล้ว สุดท้าย ประชาชนเอง หรือ ผู้สมัครเอง จะไม่แน่ใจ และ สับสน ว่าเขตเลือกตั้งของตัวเองนั้น อยู่ตรงไหน 

"ทุกพรรคการเมือง มีความกังวลใจเรื่องเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองในพื้นที่ที่มีเครือข่าย กลไกล หัวคะแนน เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันมีการทำงานกันมาก่อนแล้ว ว่าจะมาทำงานให้ผู้สมัครต่างๆ  ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือ หาเสียงไปแล้วในพื้นที่หนึ่ง แต่พื้นที่จริงๆ ก็จะถูกเฉือนไปอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง ไปอยู่กับเขตอื่น  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ชูวิทย์ บุก กกต. ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ผิด ม.72 โชว์ล้างมือ โต้ข้อครหามือสกปรก
• เพื่อไทยชี้ปัญหา PM2.5 กระทบ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ต้องดันกฎหมายอากาศสะอาด

การแบ่งเขตเลือกตั้ง มีหลักอยู่ 3 ข้อ คือ 

1. ไม่ควรจะแตกต่างจากครั้งที่แล้ว ถ้าครั้งที่แล้วแบ่งอย่างไร ครั้งนี้ ก็ควรคล้ายๆกัน 
2.อำเภอแบบแบ่งเขตการปกครอง มันไม่ควรแบ่งเป็นเขตการเลือกตั้งแบบหลายเขตมากเกินไป  
3. จะต้องไม่ทำให้ประชาชนสับสน  และ การแบ่งเขตเลือกตั้ง มันเป็น เทคนิควิธี ในการเอารัดเอาเปรียบผู้สมัครได้ด้วย  ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Gerrymandering  การแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อแอบเอาเปรียบ และให้อีกคนเสียเปรียบ"

พี่น้องประชาชน จะต้องอัปเดต เขตเลือกตั้ง และ ข้อมูลล่าสุดเอาไว้ ต้องตรวจสอบว่าตัวเองอยู่ในเขตไหน"

ขณะเดียวกัน ล่าสุด กกต.แจงปมปัญหา แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. แล้ว โดย กกต. ยืนยัน ยึดตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด พร้อมชี้แจงต่อศาลปกครอง  โดย กกต. ได้พยายามในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งยืนยันว่าเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่กำหนด ตามหลักเกณฑ์ค่าเฉลี่ยจำนวนจำนวนประชากรไม่เกิน ร้อยละ 10 รวมถึงความใกล้เคียงของพื้นที่ ให้เป็นไปตามกฏหมายทุกประการ ซึ่งสามารถชี้แจงได้ในทุกเขตเลือกตั้ง