"หนิง ปณิตา" เผยสาเหตุน้ำตาแตกกลางวงสื่อ หลังยอมรับครอบครัวมีปัญหาจริง กำลังพยายามแก้ไขเรื่องนี้ให้ดีที่สุด บอกภาพภายนอกอาจดูเป็นผู้หญิงสตรอง แต่จริงๆ เซนซิทีฟมาก
จากกรณีที่คุณแม่ลูกหนึ่ง "หนิง ปณิตา" ภรรยาของ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" น้ำตาร่วงกลางวงสัมภาษณ์ ยอมรับว่าครอบครัวมีปัญหาจริงและกำลังพยายามแก้ไขเรื่องนี้ให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันตอนนี้ยังอยู่บ้านเดียวกับสามี ท่ามกลางแฟนๆ ที่ร่วมส่งกำลังใจให้อย่างล้นหลาม
ล่าสุดผู้จัดคนเก่ง หนิง ปณิตา ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้ง ผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ พร้อมบอกสาเหตุที่ร่ำไห้กลางวงสื่อ โดยบอกว่า
ช็อตน้ำตาซึมกลางวงสื่อ?
"ภาพที่เราออกสู่สาธารณะ ออกสู่สังคม เราเป็นผู้หญิงสตรอง ในความจริงคนที่สนิทกับเราจริงๆ จะรู้ว่าเราเป็นคนที่โคตรของโคตรเซนซิทีฟเลย แล้วพอเวลาต้องฮึบเพื่อสตรอง มันจะมีจุดดิ่งที่ผิดปกติ แต่เราก็ต้องทำงาน ณ ตรงนั้น เราจะมางอแง วอแว ไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้ ก็ต้องฮึบๆ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เราพูดว่าให้เมตตา หนิง กับลูกสาวด้วย?
"ไม่ต้องเป็นข่าวเรา เวลาที่เห็นข่าวแบบนี้ในสังคมทั่วๆ ไป เราก็อยากจะวอนให้สื่อเบาๆ คือสื่อมีหลายประเภท สื่อดีๆ น่ารักก็มีเยอะ แต่ก็มีสื่อบางประเภท เพจบางประเภท ที่รู้สึกว่าเอาพาดหัวแรงๆ เอาความสะใจเพื่อเรียกเรตติ้ง เพื่อเรียกอะไรได้ สุดท้ายครอบครัวเขาจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แล้วทุกวันนี้เราต้องยอมรับว่าทุกอย่างถูกวางอยู่ไว้บนโลกโซเชียล ที่มันลบอะไรไม่ได้อีกแล้ว
หนิงคิดว่าไม่มีใครเจตนาร้าย อยากจะเมาท์เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสนุกปากหรอก แต่ว่าความที่อยากจะรู้เรื่องของคน มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว แต่พอเวลาเมาท์ไปเมาท์มา มันก็มีบางสิ่งที่มันอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกของคนที่เขาโดน ความรู้สึกคนอื่นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่สุดของคนเป็นแม่ ที่เขามีคำพูดว่า ‘แม่ยอมตายแทนลูกได้’ มันคือคำนี้เลย"
ตอนนี้เคลียร์กันแล้วหรือยัง?
"ก็อย่างที่บอกไป มันก็ยังอยู่ในกระบวนการของการแก้ปัญหาอยู่ แต่ถ้าแก้ปัญหาแล้วมันออกมาเป็นยังไง สุดท้ายมันก็คือข้างหน้าที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะยังไง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก"
กระแสข่าวที่เกิดขึ้น มีคนให้กำลังใจเยอะ?
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่แทบจะไม่กลับไปอ่านข่าวอะไรที่เป็นของตัวเองเลย ตั้งแต่อยู่เกาหลีแล้ว รู้ว่ามีข่าว ก็ไม่อ่าน จะไม่เสพข่าวนี้ หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิทหลายๆ คน เมื่อวานไลน์กระหน่ำมาก หลายๆ คน รู้เรื่องแค่นิดๆ ไม่มีดีเทล แล้วทุกคนก็ช็อกกันหมดว่าเกิดอะไรขึ้น คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หนิงรู้สึกว่าถ้าจะผ่านกระบวนการตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ หนิงจะตัดสินใจและตกตะกอนด้วยตัวหนิงเอง
แต่หนิงจะไม่เอาคนนี้ว่าอย่างนี้ คนนั้นว่าอย่างนั้น แล้วสุดท้ายพอตัดสินใจแล้ว จะมีคำพูดหนึ่งที่ว่า ‘ถ้ารู้อย่างนั้น ฉันทำแบบนี้ดีกว่า’ อันนี้จะไม่เอา ดังนั้นจะไม่ค่อยมีใครดีเทลในเรื่องตรงนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยไม่ได้อ่านคอมเมนต์ แต่รู้ว่ามีคนให้กำลังใจ จากที่คนรอบข้างมาเล่า ต้องขอบคุณมากๆ จริงๆ"