“ชูวิทย์” บุกหน้าทำเนียบ นำเยาวชนตัดต้นกัญชา ไม่เห็นด้วย กฎหมายยังไม่ชัด พร้อมประกาศกร้าว “ไม่เอากัญชาเสรี ต้องไม่เลือกภูมิใจไทย” ด้าน อนุทิน ลั่น ไม่ให้ค่า เชื่อมีการเมืองเบื้องหลัง
วันที่ 28 ก.พ. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้พาเด็กนักเรียนที่เป็นเยาวชนจำนวน 5 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย มาร่วมทำกิจกรรมตัดต้นกัญชา เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี
จากนั้น หนึ่งในตัวแทนเยาวชนได้อ่านแถงการณ์เรียกร้องให้กระทรวงสาธาณสุขมีความชัดเจน เรื่องการควบคุมการใช้กัญชา รวมถึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงปัญหาและตระหนักถึงผลกระทบของการใช้กัญชาโดยไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะกรณีการใช้อย่างไม่ถูกวิธีในหมู่เด็กและเยาวชน ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาการทางสมอง ในการเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่า สามารถนำกัญชามาใช้ในการประกอบอาหารได้ ขณะเดียวกันตัวแทนผู้ปกครองของเยาวชนที่ นายชูวิทย์ พามาร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ ยืนยันว่านายชูวิทย์ ไม่ได้บังคับมา แต่เต็มใจมาเพราะเยาวชนต้องการแสดงจุดยืนคัดค้านกัญชาเสรี
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ถามเยาวชนที่พามาว่า ใครเคยเห็นเพื่อนตัวเองใช้กัญชาบ้าง เยาวชนทั้งหมดได้ยกมือขึ้นพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่ทุกคนจะนำกรรไกรตัดหญ้าขนาดใหญ่ มาตัดต้นกัญชา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กัญชาเป็นประเด็นแหลมคมที่สังคมมองข้าม เพราะความเร่งรีบของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ว่ากัญชาเป็นสิ่งไม่ดี แต่กฎกระทรวงที่ถูกออกมาอย่างเร่งรีบ โดยที่กฎหมายลูกยังไม่ผ่านสภา มองว่าเป็นการพยายามหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น
คุณชูวิทย์ ยังฝากถึงประชาชนอีกว่า หากใครเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี ให้เลือกพรรคภูมิใจไทย แต่หากใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องเลือก พร้อมประกาศชัดว่าจะยังคงเดินหน้าถล่มพรรคภูมิใจไทยอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ประกาศ จะต้องเผารังหนู พร้อมนำเยาวชน ตัดต้นกัญชา ว่าขอไม่ให้ราคา ก็ไม่อยากจะพูดถึง ขอทำงานดีกว่า เหลืออีก 3-4 เดือน ต้องทำงานอยู่ ส่วนมองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ในช่วงใกล้เลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าบอกมาตลอด และรู้ด้วยว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เราก็มั่นใจตัวเราเอง เราจะไปชกกับเขาทำไม คนพาลมา เราอย่าไปชก หนีได้ให้หนี
เมื่อถามว่าจะทำให้พรรคภูมิใจไทย เสียคะแนนนิยมหรือไม่ นายอนุทิน ขอให้ดู สิ่งที่เกิดขึ้นผมว่าประชาชนเลือกได้แหละเนอะ
ส่วนที่มีการโจมตีนายเนวิน อย่างรุนแรง เจ้าตัวได้ฝากอะไรมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายเนวิน บอกว่า พี่ก็อยู่บ้านของพี่ดีๆอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่าจะไปสู้กับใคร พวกเราเคยสู้ใคร ทำงานอย่างเดียว
ส่วนมองว่าจะจบปัญหานี้อย่างไร นายอนุทิน โยนให้ไปถามคุณชูวิทย์ ผมจบไปนานแล้ว ไม่เคยเริ่มเลยไม่ต้องมีจุดจบ เมื่อถามว่าจะปล่อยให้นายชูวิทย์เคลื่อนไหวแบบนี้ต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน บอก ใครสนุกตรงนี้ ผมก็ไม่ได้สนุกด้วยหนิ ผมก็ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่น้องก็ ไม่เห็นมีใครรู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้สักคน
เมื่อถามว่านายชูวิทย์ ได้โพสต์แฉว่าไม่อาจปล่อยให้ภูมิใจไทยยืมจมูกนายเนวินหายใจ จะพัง
และนายอนุทิน เคยพูด ว่า "รำคาญนายเนวินชิบหาย ไม่ปล่อยให้หายใจด้วยตัวเอง" นายอนุทิน หันมาร้อง โหว แหม ไม่รู้ว่าจะพูดว่าไรดี ตนจะไปพูดให้คนอย่างคุณชูวิทย์ฟังได้อย่างไร ผมไม่เคยเอาของในบ้านไปบอกให้คนข้างนอกบ้านอยู่แล้ว บ้านผมอยู่อบอุ่นดีอยู่แล้ว มีเพื่อนมีพี่มีน้องมีพ่อมีแม่ดีอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยอบอุ่นจะตาย มีแต่คนเข้ามาอยู่ และผมจะไปบอกเอาปัญหา ที่มันเกิดขึ้นในบ้าน ไปบอกให้คนนอกฟัง วงนอก ที่หาวงไม่เจอด้วยซ้ำ จะ ไปพูดทำไมเล่า แค่นี้ก็วิเคราะห์ได้แล้วว่าใครพูดเท็จ ตนจึงบอกว่า อย่าไปถามเรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์ มันไม่ได้เกิดขึ้น เราจะไปชกให้ชาวบ้านสนุกเหรอ มันไม่ใช่
ส่วนที่ นายชูวิทย์ ถ่มน้ำลายใส่รูปนายเนวิน นั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ผมเชื่อว่าเวลาที่เขาเจอคุณเนวิน แล้วถ้าทำต่อหน้า ค่อยว่ากัน
ส่วนการที่มองว่ากระทรวงสาธารณสุขไปตรวจสอบร้านกัญชา ภายในโรงแรมของนายชูวิทย์เป็นการกลั่นแกล้งนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคำสั่งของตน เพราะเวลาตนปล่อยวาง ก็ปล่อยวางจริงๆ ตนไม่เคยคิดอยู่ในหัว ให้สั่งไปตรวจร้าน ใคร แล้วแต่ปลัดกระทรวง ว่าจะชี้แจงหรือไม่เพราะทุกวันนี้ตนก็ปล่อยงานประจำ ดูแค่นโยบายที่วันนี้เซ็นเรื่องอสม. 2000 บาท เข้าครม. และ นี่คือหน้าที่ตน ไม่เคยไปบอกให้ใครไปตรวจร้านกัญชาที่ไหน ใครที่ทำผิดกฏหมาย ทางกรม เขาก็มีเจ้าพนักงานทำหน้าที่ปกติ