"ปู ไปรยา" เล่าเรื่องราวชีวิตที่ไม่มีใครรู้ เคยคิดสั้นเพราะคำบูลลี่ เจอสายตาเกลียด จนไม่กล้าเดินสยามนาน 3 ปี ยอมรับเหนื่อย ไม่อยากทำอะไรแล้วในวงการบันเทิง ไม่อยากปลอมเพื่อเอาใจคนอื่น
อีกหนึ่งคนบันเทิงที่สร้างความภาคภูมิใจให้เมืองไทย สำหรับนางเอกสาว "ปู ไปรยา" ที่เฉิดฉายในวงการฮอลลีวูดเต็มตัว จากผลงานภาพยนตร์บู๊ระดับโลก "Paradise City" ได้ประกบสองนักแสดงตัวพ่อ "บรูซ วิลลิส" (Bruce Willis) และ "จอห์น ทราโวลตา" (John Travolta) ซึ่งที่ผ่านมาสาวปูก็ออกงานอีเว้นต์ระดับอินเตอร์ กระทบไหล่เซเลบระดับโลกมากมาย
แต่ใครจะไปรู้ว่ากว่านางเอกสาว ปู ไปรยา จะมีวันนี้นั้นไม่ง่ายเลย เธอต้องพยายามอย่างหนัก ล่าสุดสาวปู ได้ออกมาเปิดใจในรายการ WOOD FM พร้อมเผยเรื่องราวชีวิตในอดีตที่ไม่มีใครเคยรู้ ทั้งเคยวิ่งหนีจากวงการและครอบครัว เพราะคำบูลลี่ แถมยังโดนบูลลี่รุนแรงจนถึงขั้นที่อยากจะจบชีวิต
แต่สุดท้ายสาวปูก็สามารถก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ มองทุกอย่างเป็นบทเรียนชีวิต รวมถึงเลือกที่จะรักตัวเองเป็นคนใหม่ที่แกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยไม่ยึดติดกับอะไร นอกจากนี้สาวปูยังยอมรับตรงๆว่า ไม่อยากทำอะไรในวงการบันเทิง เพราะตนทำทุกอย่างแล้ว และรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากแข่งขัน ที่สำคัญไม่อยากปลอมเพื่อเอาใจคนอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคยนอนร้องไห้บนพื้นห้องน้ำเป็นสิบกว่าชั่วโมง
"อยากฆ่าตัวตาย ปูเคยคิดสั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งด่าปู แล้วเขาทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ใน IG ปูเลยโทรไปร้องไห้ บอกคุณทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง คุณรู้ไหมว่าคุณทำฉันไม่ไหวแล้วก็กรี๊ด เพื่อนคว้าโทรศัทพ์แล้วบอกว่า No!! เธอโทรหาคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ ปูก็กรี๊ด นอนร้องไห้อยู่กับพื้นห้องน้ำเป็นสิบกว่าชั่วโมง หลังจากนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของสงครามจิตวิทยาและสมองที่จะเกิดขึ้น โฆษณาหายหมด งานหายหมด ทุกอย่างที่ยึดติดว่าเป็นตัวตนปูว่าถ้ามีสิ่งนี้ ทำให้ปูมีค่าหายไปหมดเลย แต่มันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นเลย
เพราะชีวิตหลังจากนั้น ปูได้เป็นตัวของตัวเอง แล้วตอนนี้จะชอบไม่ชอบก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา ปูออกจากตำแหน่งแล้ว มันเป็นส่วนสำคัญของปูเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วบางครั้งชีวิตมันก็เหมือนหนังสือ บทนี้มันจบแล้ว คนที่คุณเป็นในช่วงเวลานี้มันจบแล้ว คนนั้นควรจะตายไป เพื่อคนใหม่เกิดขึ้นและแกร่งกว่าเดิม"
ที่ผ่านมาเครียดหนักมาก ไม่เดินสยามอยู่ 3 ปี
"มีคนขู่ฆ่าปูด้วยนะ ฉันจะไปหาเธอแล้วฆ่าเธอ มันแย่มากๆ บางคนเอารูปปูที่เคยถ่ายรูปคู่กันมาฉีกแล้ววาด แล้วส่งเข้ามาใน inbox มันบ้าบอสุดๆ ตอนนั้นก็คุยกับพ่อแม่ แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจ ปูก็เลยเลือกที่จะวิ่งหนีจากพ่อแม่ วิ่งหนีจากทุกคน ปูเดินพารากอนช่วงหนึ่ง ทุกตาที่ปูมองแล้วคิดว่าเขาเกลียดฉัน ทุกคนเกลียดปู ปูไม่เดินสยามเลยนะ เป็นอยู่ 3 ปี
มันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจ บางทีเหมือนปูจะสัมภาษณ์กับพี่วู้ดดี้ก็คิดว่าพรุ่งนี้มันต้องกลับมาแน่นอน แต่ปูจะไม่แคร์อีกต่อไปแล้ว เพราะปูเชื่ออย่างหนึ่งว่า มันมีคำที่ Brene Brow เคยพูด เหมือนสนามมวยมีนักชก 2 คน มีคนดูคนชม พวกที่ชมออกความคิดเห็น เราต้องอย่าไปใส่ใจสิ่งที่เขาพูดกัน เพราะคุณไม่ได้ลงมาสู้ด้วย ฉะนั้นปูพร้อมมากตอนนี้ พร้อมสำหรับบทใหม่ พร้อมที่จะมีความสุข"
ไม่อยากทำอะไรในวงการบันเทิง ไม่ชอบแข่งขัน
"ไม่อยากทำอะไรแล้ว อยากกลับมาช่วยคน เวลาออกจากกรุงเทพฯ มีความสุข อยู่ต่างจังหวัด ไปวัด ไปเจอผู้คนมีความสุขมาก นี่เป็นความทรงจำที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่ปูชอบมาก แต่อย่างอื่นอยากจะทำอะไรในวงการบันเทิง เอาจริงไม่มีแล้ว ปูดูทุกอย่างแล้วรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากแข่งขัน ต้องปีน ทำมาหมดแล้ว ปูแค่อยากจะชิลๆ มีรายได้ผ่อนบ้านให้จบ ปิดบ้านหลังนี้ ปูพอแล้ว
ตอนนี้งานโฆษณาก็ยังมี รู้สึกปลื้มใจที่ได้ทำ อะไรที่เข้ามาแล้วยังอยากร่วมงานกับเรา เราก็จะทำมันด้วยความสุข ด้วยความภาคภูมิใจ ตอนนี้ปูจะใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเองที่สุด อะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา อะไรที่มันปลอมเพื่อเอาใจคนอื่น อะไรที่ทำเพื่อแข่งขัน ปูว่าเวลาเป็นสิ่งที่แพงที่สุด และมีคุณค่ามากที่สุด ต่อไปนี้ชีวิตปูจะใช้กับใครทำอะไร ปูจะต้องแน่ใจว่าวินาทีนี้ที่ปูคุยอยู่เป็นวินาทีที่ปูจะไม่เสียดายคุ้มค่าแล้ว เพราะฉะนั้นลูกค้าคนไหนที่ปูเหยียบกองแล้ว ปูทุ่มให้ 100% เพราะปูทำเพื่อพวกเขาและปูอยากทำ นั่นคือชีวิตที่ควรเป็น
ส่วนอเมริกาอยู่ต่อ ถ้าได้หนังก็เล่น ถ้าได้ซีรีส์ก็เล่น พัฒนาฝีมือการแสดงได้เป็นตัวของตัวเอง อยู่กับเพื่อนๆ กลุ่มใหม่ เลี้ยงหมา 3 ตัว วันหนึ่งหวังว่าจะมีครอบครัว แต่อาจจะไม่แบบธรรมชาติ เป็นคนที่ไม่เห็นภาพตัวเองอุ้มท้องเลย ไม่อยากกดดันให้ใครต้องมาแต่งงานกับเรา ปูค่อนข้างเปิดกว้างจะในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ ลง IG รูป คุณจะไม่ได้เห็นอีกแน่นอน"
ความรักตอนนี้แฮปปี้
"แฮปปี้ คุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ คุยนานเกินปีแล้ว ขอเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวเท่านั้นคราวนี้ ปูจะไม่พูดแล้ว ไม่มีใครจะได้เห็นรูปที่ปูลง เพราะเวลาโดนเรื่องโซเชียลมันหนักแค่ไหน ปูรู้สึกว่าต้องการปกป้องคนที่คุยด้วย อีกอย่างคือที่ผ่านมามันเป็น ไปรยา เวอร์ชั่น ต้องให้คนนี้รัก ต้องมีแฟน ต้องแต่งงาน เพื่อมีคุณค่า แต่ตอนนี้ปูรู้สึกว่าชีวิตรักปู เป็นเรื่องของปู มันเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าปูยังปกป้องตัวเองในสายตาผู้คนไม่ได้ ซึ่งตอนนี้หลังจากบทสัมภาษณ์นี้ ปูอาจจะโดนด่าหนักมากก็ได้ ปูไม่มีทางเอาคนอื่นที่เป็นคนนอกวงการ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ปูต้องปกป้องทุกคน"