ตร.แนะ 5 วิธี "ช้อปปิ้งออนไลน์" ยกระดับความปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าการช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเป็นได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทั้งสะดวกสบาย รวดเร็ว กดสั่งของ จ่ายเงิน ไม่กี่ขั้นตอน สบายกว่าออกไปเดินตามหาร้านค้าให้ยุ่งยาก และเสียเวลา  อย่างไรก็ตามการช้อปออนไลน์ ก็เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสทองนี้ออกกลโกงต่างๆ มากมายมาหลอกให้ผู้ซื้อเชื่อใจ ตัดสินใจซื้อสินค้า

 ด้านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร)  ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก PCT Police ประเด็น "ช้อปปิ้งออนไลน์" ยกระดับความปลอดภัย แบบไม่เสี่ยง เพื่อให้การ "ช้อปออนไลน์" มีความปลอดภัยมากขึ้น ลดปัญหาการถูกแฮกบัญชี หรือถูกมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ส่งผลให้เงินหาย หรือ มียอดการใช้บัตรเครดิตโดยไม่ทันตั้งตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ฟ้องออนไลน์! ช้อปปิ้งแล้วถูกโกงอยากได้เงินคืน ต้องทำตามนี้

• วิธีรับมือกับ "ข้อมูลส่วนตัวที่อยู่บน Google" ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้

• รู้ทัน 5 กลโกงมิจฉาชีพบนแอป LINE พร้อมแนะ 5 วิธีเช็ก ก่อนตกเป็นเหยื่อกลโกง

5 วิธียกระดับความปลอดภัย ช้อปออนไลน์แบบไม่เสี่ยง

1. เลือกเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ปลอดภัย

 ต้องเลือกร้านค้าบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันซื้อขายออนไลน์ที่ มีชื่อเสียง ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ

2. หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะชำระเงิน

 การชำระเงินออนไลน์ควรเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือ หรือ เลือกเชื่อมต่อ Wi-Fi บ้านจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่าน Wi-Fi ฟรีสาธารณะ เพราะเสี่ยงมากต่อการถูกแฮกบัญชีธนาคาร

3. เช็กข้อความ หรือใบเสร็จบัตรเครดิตอยู่เสมอ

ควรสมัครการแจ้งเตือนจากธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน จะได้ตรวจสอบว่ามีการใช้จ่ายเงินออกจากบัญชี

4. เปลี่ยนพาสเวิร์ดชำระเงินเดือนละครั้ง

ควรหมั่นทำการเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุก ๆ 30-60 วัน รวมถึงควรตั้งรหัสผ่านชำระเงินที่คาดเดาได้ยาก หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านด้วยวันเดือนปีเกิด หรือตัวเลขที่ปรากฏตามหน้าบัตรประชาชน

5. ผูกบัญชีธนาคารที่ไม่ใช่ธนาคารหลัก

ควรเป็นบัญชีธนาคารที่ไม่มีเงินนอนอยู่ในบัญชี หากต้องการช้อปปิ้งค่อยโอนเงินจากบัญชีอื่นเข้ามาไว้ให้พอดีกับค่าสินค้าและค่าบริการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการถูกดูดเงินในบัญชีออกไปโดยไม่รู้ตัว

ที่มา : PCT Police