ไนจีเรียกำลังเผชิญน้ำท่วมหนัก จากฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงตุลาคม จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 500 กว่าคนและเร่งอพยพอีก 1.4 ล้านคน
วานนี้ (15 ตุลาคม 2565) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่อีกครั้งในประเทศไนจีเรีย อันเนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายเดือนและน้ำในเต็มเขื่อนจนต้องปล่อนน้ำส่วนเกินออกมา จนทำให้ชาวไนจีเรีย 1.4 ล้านคนต้องพลัดถิ่นและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 500 ราย
“มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เมื่อจู่ๆ ผู้คนก็กลายเป็นคนไร้บ้าน คนขอทานกระทันหันภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ไม่ว่าพวกเขาจะรวยแค่ไหน” Chiamaka Ibeanu พยาบาลวิชาชีพที่อาศัยอยู่ใน โอนิทชา (Onitsha) ในรัฐอะนัมบรา (Anambra) กล่าว
นาซีร์ ซานี กวาร์โซ (Nasir Sani-Gwarzo) ปลัดกระทรวงกิจการภัยพิบัติ และการพัฒนาสังคมของไนจีเรีย กล่าวว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง กระทบ 27 รัฐจาก 36 รัฐของไนจีเรีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,546 คน พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 70,566 เฮกตาร์ละบ้านเรือนทั้งหมด 45,249 หลังเสียหาย
This is not a movie scene but devastating floods covering the land in Nigeria#FloodsInNigeria are not on Worlds news headlines. Almost 33 states have been seriously affected#ClimateChange pic.twitter.com/2rOSdWnvKv
— Emaan Danish Khan (@EmaanzT) October 10, 2022
อีกทั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวหลายสักนักรายงาน มีผู้เสียชีวิต 76 คนในอะนัมบรา เมื่อเรือของพวกเขาล่มขณะหนีน้ำท่วมสูง ที่กำลังเพิ่มขึ้นท่วมมิดหลังคาเรือน คนกว่า 600,000 คนในอะนัมบราต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นจากน้ำท่วมในครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสายด่วนน้ำท่วมภูเก็ต ขอความช่วยเหลือ-รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด
Google ทดลองใช้ AI วิเคราะห์ความเสียหายจากภัยพิบัติ ช่วยโอนเงินเยียวยาให้
น้ำท่วมในอีกซีกโลก - อินเดียฤดูฝนนานกว่าปกติ เวเนซูเอลาดินถล่ม
เกมฝึกบริหารจัดการน้ำท่วม Timberborn ด้วยอาณาจักรตัวบีเวอร์สุดยิ่งใหญ่
ภาพถ่ายจากดาวเทียม Landsat 9 แสดงให้เห็นการขยายตัวของแม่น้ำไนเจอร์และแม่น้ำเบนิวทางตอนใต้ของไนจีเรีย ซึ่งตามรายงานของ NASA หน่วยงานอวกาศของสหรัฐฯเผยว่า น้ำได้เข้าท่วมชุมชนจำนวนมาก โดยบริเวณที่แม่น้ำมาบรรจบกันนั้นเป็นเมือง Lokoja ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ Kogi ตอนนี้ได้ท่วมมิดไปแล้ว
นับตั้งแต่ต้นฤดูฝนของไนจีเรีย ซึ่งกินเวลามาตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไนจีเรีย (NiMet) และสำนักงานบริการอุทกวิทยาแห่งไนจีเรีย (NIHSA) กล่าวว่า น้ำท่วมใกล้เข้ามาแล้ว พื้นที่ต่างๆของประเทศจะประสบกับปริมาณน้ำฝนที่จะตกหนักขึ้น ประกอบกับน้ำไหลจากเขื่อนด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่ในไนจีเรีย เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
น้ำท่วมในครั้งนี้ใกล้เคียงกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ล่าสุดในปี 2555 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1.3 ล้านคนและคร่าชีวิตผู้คนไป 431 คน รัฐ 30 รัฐจากทั้งหมด 36 รัฐได้รับผลกระทบ แต่ที่น่าห่วงสุดคือน้ำท่วมในครั้งนี้ได้จุดประกายความกลัวต่อความไม่มั่นคงด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นและราคาที่สูงขึ้น เพราะพื้นที่เกษตรโดนน้ำท่วมฉับพลัน เกษตรกรตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งอาจทำให้ไนจีเรียขาดแคลนอาหารในปีหน้า
Somewhere in the oil rich Niger Delta region of Nigeria.
— Amaibi Patrick (@PatrickAmaibi) October 14, 2022
I was privileged to visit some of flood areas in Delta and Rivers State. As of today no emergency response was on ground to help stranded Nigerians.@Pigdgreen pic.twitter.com/OUi4mMyNEB
เมื่อวันศุกร์ กระทรวงกิจการมนุษยธรรมประกาศว่ารัฐบาลไนจีเรียได้เริ่มแจกจ่ายอาหารและสิ่งของที่ไม่ใช่อาหารจำนวน 12,000 เมตริกตันไปยังรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
เอกสารนโยบายระดับชาติของไนจีเรียเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งตีพิมพ์ในปี 2020 ระบุว่าน้ำท่วมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและคาดว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ "จะเพิ่มความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้าย" นั่นหมายความว่านี่อาจจะยังไม่ใช่เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจสร้างความรุนแรงได้มากกว่านี้ และหากไม่รีบเตรียมรับมือตอนนี้คนจะพลัดถิ่นมากขึ้นไปอีก
ที่มาข้อมูล
https://www.washingtonpost.com/climate-environment/2022/10/15/nigeria-flooding-displacement-deaths/
https://earthobservatory.nasa.gov/images/150463/flooding-inundates-southern-nigeria