10 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา - ลุ่มแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ รวมถึง กทม. และจังหวัดลุ่มแม่น้ำป่าสักได้แก่ สระบุรี ลพบุรี เตรียมรับมือแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น อาจมี น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 8 จังหวัด ได้แก่ 1.ชัยนาท 2. สิงห์บุรี 3. อ่างทอง 4. พระนครศรีอยุธยา 5. ปทุมธานี 6. นนทบุรี 7.สมุทรปราการ รวมถึง 8. กรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
โดย จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีน้ำหลากจากทางตอนเหนือไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 3,077 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +17.64 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับเก็บกัก 1.14 (+16.50 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง) เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ +17.60 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฝ้าจับตาติดตามสถานการณ์น้ำ ตามเขื่อน น้ำระบาย น้ำท่วมหรือไม่ ? เช็กเลย
เมื่อดำเนินการแบบนี้ จะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรามากกว่า 2,900 – 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 7ตุลาคม 2565 ประกอบกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ โดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.90 – 2.20 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2565
• ลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยา รับมือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ในเวลา 10.30 วันที่ 8 ตุลาคม กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ แจ้งเน้นย้ำ 5 จังหวัดลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ให้เฝ้าระวังผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 65 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ ยังแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงริมน้ำที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ น้ำท่วม รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
โดย กรมชลประทาน จะมีปริมาณน้ำท่าไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ช่วงระหว่างวันที่ 8 -14 ตุลาคม 2565 รวมจำนวน 492.38 ล้านลูกบาศก์เมตร และวันที่ 14 ตุลาคม 2565 คาดการณ์ปริมาตรน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะมีจำนวน 1,030.61 ล้านลูกบาศก์เมตร
ดังนั้น กรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากอัตรา 830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ถึงเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่ม สูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 30 –50 เซนติเมตร โดยปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นจะส่งผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างอัตรา 80 - 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้แจ้งเน้นย้ำไ ปยัง 5 จังหวัดลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี เฝ้าระวังผลกระทบระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 65 เป็นต้นไป