วิธีแก้ปัญหา iOS 16 แบตเตอรี่ไหล หมดเร็ว ด้วยการตั้งค่าแบบง่ายๆ
หลังจากการเปิดตัวเวอร์ชั่นเต็มของ iOS 16 สาวกไอโฟนก็ได้อัปเกรดและเจอปัญหากันหลายราย ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หมดเร็วทำให้ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ เราได้รวมเทคนิคและวิธีแก้ไว้ให้แล้ว
iOS 16 เวอร์ชั่นล่าสุดได้เปิดให้ไอโฟนรุ่นที่รองรับอัปเดตตัวเต็ม แต่ผู้ใช้ก็ออกมาพูดถึงปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ หรือที่เรียกกันว่า “แบตไหล” นั่นเอง ซึ่งเราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ดังนี้
1.รีสตาร์ท iPhone ของคุณ (Restart your iPhone)
เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าแบตเตอรี่หมดเร็วเกินควร เราแนะนำให้รีสตาร์ท iPhone ของคุณก่อนที่จะลองวิธีอื่นๆ
กดปุ่มด้านซ้าย (ระดับเสียงด้านข้าง + หรือ -) พร้อมไปกับปุ่มล็อกจอด้านขวาของเครื่อง หลังจากนั้นสไลด์เพื่อ ปิดเครื่อง และเปิดใหม่อีกครั้งด้วยวิธีการเดิม
2.ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่ของแอปพลิเคชั่นต่างๆ (Battery Usage of Apps)
บางแอปพลิเคชั่นอาจกินแบตเตอรี่มากจนเกินไป จนอาจทำให้แบตเตอรี่หมดไวจนเกินไป วิธีตรวจสอบดังนี้
การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > ซึ่งด้านล่างจะแสดงกราฟว่าแอปฯต่างๆว่าใช้จำนวนแบตเตอรี่ไปกี่ %
ซึ่งสามารถดูได้ 24 ชั่วโมง และ 10 วันย้อนหลัง ซึ่งหากมีแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้และกินแบตเตอรี่ ก็สามารถลบออกไปเพื่อเป็นวิธีประหยัดแบตเตอรี่อีกหนึ่งทาง
3.ปิดใช้งานการรีเฟรชแอปพื้นหลัง (Background App Refresh)
ฟังก์ชั่นนี้จะเปิดสำรองไว้ตลอดไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันรวมถึงเกม คุณลักษณะนี้ใน iOS เรียกว่าการ Background App Refresh เพื่อให้คุณสะดวกในการใช้งาน แต่มันสิ้นเปลืองแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก
วิธีปิดง่ายๆ โดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > Background App Refresh > แตะเพื่อปิด
หลังจากที่ปิดการรีเฟรชแอปพื้นหลังสำหรับแอป จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ จากแอปเหล่านั้น ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปิดการใช้งานเฉพาะสำหรับแอพที่ไม่จำเป็นเท่านั้น
4.เปิดโหมด Optimized Battery Charging หรือ การชาร์จแบบถนอมแบตเตอรี่
ไอโฟนจะเรียนรู้รูปแบบการใช้งานมือถือและการชาร์จในชีวิตประจำวันของเรา เช่น เวลาเรามักชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน ไอโฟนก็จะรู้ว่าเรามักตื่นและหยุดการชาร์จมือถือตอนกี่โมง
5.อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดมากเกินไป ไม่ควรต่ำกว่า 15%
6.ปิดใช้งานบริการตามตำแหน่ง (Location)
หากเปิด GPS ไอโฟนจะคอยติดตามตำแหน่งของคุณซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ หากไม่จำเป็น เราแนะนำให้ปิดการใช้งาน GPS ซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่
เข้าไปที่ การตั้งค่า Settings > ความเป็นส่วนตัว Privacy > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง Location Services
7.ปิด Reduce Motion
วิธีลดการเคลื่อนไหว (Reduce Motion) บน iPhone ของคุณ
ไปที่แอพการตั้งค่าและไปที่ส่วนการช่วยสำหรับการเข้าถึง ให้แตะและเปิดสวิตช์ข้างลดการเคลื่อนไหว
8.ปิด Raise to Wake และใช้ Dark Mode
คุณสมบัติ Raise to Wake หรือปรับแสงหน้าจอตามเซ็นเซอร์ บน iPhone การปิดใช้งานคุณสมบัตินี้จะช่วยให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นอย่างแน่นอน
การตั้งค่า (Setting) > หน้าจอและแสงสว่าง (Display & Brightness) > แตะปิด Raise To Wake และเลือกโหมด Dark
9.เปิดใช้งานโหมดพลังงานต่ำ (Low Power Mode)
โหมดนี้จะปิดระบบและแอนิเมชั่นที่ไม่จำเป็นออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ดีและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > โหมดประหยัดพลังงาน
ที่มา: gottabemobile.com
