ดร.เสรีกังวล น้ำมามากและเร็วกว่าปกติ ไทยต้องเผชิญฝนอีก 2 เดือน

นี่แค่เข้าฤดูฝนเดือนแรก เรายังต้องเผชิญฝนอีก 2 เดือน! เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า ช่วงนี้เกิดฝนตกหนักและถี่ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคกลาง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายเขต ด้าน ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการ ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต โพสต์กังวลว่าน้ำที่ไหลมาภาคกลาง ไหลเร็วและมากขึ้น โดย ดร.เสรีได้โพสต์ว่า

# น้ำมาเร็วในภาคกลาง Worst case scenario

• สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ออกสำรวจในพื้นที่ภาคกลางหลายแห่ง เพราะเริ่มกังวลน้ำจะมากขนาดไหน ? โดยวันที่ 31 ส.ค. ไปเกาะเมืองอยุธยา (หัวรอ) ดูระดับน้ำยังต่ำกว่าปี 54 อยู่ประมาณ 1 เมตร มีการเตรียมการรองรับน้ำมากแล้ว ติดตั้งผนังกั้นน้ำ เพราะมาเร็วประมาณ 1 เดือนกว่ายังเหลืออีกกว่า 2 เดือนที่ยังต้องเผชิญฝนตกหนัก แม้ว่าจะไม่มีน้ำระบาย หรือน้ำหลากจากภาคเหนือ สถานการณ์ในอนาคตยังสุ่มเสี่ยงตาม Worst case scenario ที่แนบมาครับ
• ต่อจากนั้นได้ไปสำรวจบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกอกน้อย (4 กันยายน) พบปะชุมชน ร่องเรือดูสภาพน้ำ พื้นที่ฟันหลอต่าง ๆ ทั้งฝั่งทั้งนนทบุรี และ กทม. เนื่องจากเป็นพื้นที่ด่านหน้าที่น้ำจะหลากเข้ากรุงด้านเขตตลิ่งชัน และทวีวัฒนา หลายจุดมีการเร่งระบายน้ำในพื้นที่สู่คลอง คูคลองซอยต่าง ๆ หมดสภาพ พื้นที่ต่ำน้ำท่วมขัง และน้ำเสีย ไม่สามารถระบายโดยธรรมชาติ ได้รับอิทธิพลสูงจากน้ำขึ้น-น้ำลง ระดับน้ำปัจจุบันประมาณ 1.40 msl (ยังอยู่ต่ำกว่าระดับวิกฤติที่ 1.80) แต่พื้นที่ฝั่ง อ. บางกรวยเริ่มมีน้ำล้น (เนื่องจากไม่มีผนังกั้นน้ำ เหมือนฝั่ง กทม.)

• เดินทางไปดูพื้นที่เขตบางขุนเทียนร่วมกับท่านรองผู้ว่าฯ ทวิดา และสมุทรสาคร (4 กันยายน) พบชาวบ้าน และรับทราบปัญหาระดับน้ำทะเลสูงขึ้น รวมทั้งการกัดเซาะชายฝั่ง ชาวบ้านก็ดีดบ้านหนีน้ำทุก ๆ 5 ปีแล้วด้วยเงินที่หามาได้ ระดับน้ำช่วงที่ไปสำรวจสูงมากช่วงเย็นๆ (น้ำหนุนสูง) เหลือเพียง 20-30 ซม. ก็จะท่วมพื้นที่ถนน (โดยเฉพาะบริเวณสะพานแดง ต. พันท้ายนรสิงห์) ช่วงน้ำท่วมสูงสุดปลายปีน่ะครับ อนาคตจะอยู่กันอย่างไร ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 0.50-1.0 เมตรแบบถาวร 
• ตามที่ผมได้ให้ข้อมูล เมื่อวานนี้ (6 กันยายน) มีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยเฉพาะ กทม. และปทุมธานี (150-180 มม.)  เกิดน้ำท่วมรอการระบายหลายจุด การจราจรวิกฤติ สภาพอย่างนี้จะเกิดขึ้นอีกตั้งแต่วันนี้ (7 กันยายน) จนถึงวันที่ 11 กันยายนจะเริ่มจากพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ) ผมจะได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ นำหารือกับท่านผู้ว่าฯชัชชาติเร็วๆนี้ ช่วงวันที่ 8-11 กันยายนนี้ ผมมีภารกิจเดินทางไปทำงานวิจัยที่สิงคโปร์ ฝนจะตกหนัก จึงขอให้ทุกท่านโปรดเฝ้าระวังด้วย

ดังข้อความด้านบน สรุปได้ว่า ตั้งแต่ฝนที่ตกหนักลงมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนนั้น ได้รุนแรงขึ้น น้ำมามาก และไทยเรายังต้องเผชิญกับฤดูฝนไปอีก 2 เดือน หลายพื้นที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งและหลายพื้นที่น้ำยังท่วมขัง และการจราจรติดขัด มีการคาดการณ์ว่า กทม.จะต้องเผชิญวิกฤตแบบนี้ต่อไปตั้งแต่วันนี้ (8-11 ก.ย.นี้)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เช็กเลย! จุดจอดรถบริการรับ-ส่งประชาชน ช่วงฝนตกหนัก น้ำท่วมกรุงเทพฯ

• น้ำท่วมรังสิต ล่าสุดเตือน ปชช.ยกของขึ้นที่สูง จัดที่จอดรถ-ปิดถนนเลียบคลอง

• กทม.เตือนเฝ้าระวังฝนตกหนักถึง 12 ก.ย. พร้อมแจ้งปชช.ก่อนล่วงหน้า 3 ชั่วโมง

• น้ำท่วม กทม. 8 ก.ย. 65 สถานการณ์ล่าสุด บางเขน แจ้งวัฒนะ สมุทรปราการ

• เช็กเลย! พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน - น้ำป่าไหลหลาก มีจังหวัดไหนบ้าง

จุดฟันหลอและฝั่งกทม. เป็นด่านหน้าในการรับน้ำ หลายจุดกำลังเร่งระบายไปยังคลอง ทำให้ซอยต่าง ๆ ที่ติดคลองย่ำแย่ พื้นที่น้ำเจอน้ำท่วมขัง มีน้ำเสียที่ไม่สามารถระบายได้

ส่วนเขตของบางขุนเทียนและสมุทรสาคร มีปัญหาที่น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น มีการกัดเซาะชายฝั่ง แม้ชาวบ้านจะดีดบ้านให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำตลอดทุก 5 ปี แต่คาดว่ายังคงเสี่ยงและหนักขึ้น เพราะระดับน้ำเหลือเพียงอีก 20-30 ซม. ก็จะเข้าท่วมพื้นถนนแล้ว และน้ำท่วมนี้จะมีไปจนถึงปลายปี และในอนาคตน้ำทะเลจะยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนหน้านี้ ดร.เสรีได้โพสต์อิบายในเรื่องของ การคาดการณ์ไทยน้ำท่วมหนักครั้งใหญ่ปลายปี 2565 มีแต่ตระหนักแต่ไม่ตระหนก

สาเหตุที่ฝนตกมากกว่าปกติในปีนี้ มีอิทธิพลมาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ

1. ปริมาณฝนสะสมช่วงก่อนฤดูฝนมีมากกว่าค่าปกติ
2. ปรากฎการณ์ลานีญายังทรงพลังช่วงปลายปีทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงกว่าฝั่งตะวันออก มีความชื้นสูง
3. ปรากฏการณ์ไอโอดีเป็นลบทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียสูงกว่าฝั่งตะวันตก ความชื้นสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

คาดการณ์ฝนช่วงปลายปี จะยาวนานตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ที่มีสุงกว่าค่าปกติและอาจมากกว่าปี 2554 หากหากปริมาณฝนในภาคกลางมีมากกว่า 18% ของค่าปกติ ซึ่งคาดว่าน่าจะมากกว่าตัวเลขนี้แล้วในวันนี้ มีความเสี่ยงสูงจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ 2554 แต่พฤติกรรมน้ำหลากจะไม่เหมือนกัน