สำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ของสหรัฐฯ รายงานว่า ราชุนดา พิตตส์ แม่ชาวอเมริกันผิวสีได้ยื่นฟ้องสำนักงานเขตการศึกษาลอสแอนเจลิส (LAUSD) โครงการเก็บฝ้ายเพื่อเรียนรู้การเป็นทาส ซึ่งเธอมองว่าไม่ได้คำนึงถึงความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม ส่งผลกระทบทางอารมณ์ของลูกสาวอย่างรุนแรง
ราชุนดา พิตตส์ แม่ชาวอเมริกันผิวสีได้ยื่นฟ้องสำนักงานเขตการศึกษาลอสแอนเจลิส (LAUSD) ระบบโรงเรียนรัฐขนาดใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ กรณีโครงการของโรงเรียนประถมแห่ง หนึ่งมีเนื้อหาเชื่อมโยงการเก็บฝ้ายเพื่อเรียนรู้การเป็นทาส ซึ่งเธอมองว่าไม่ได้คำนึงถึงความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม ทั้งทำให้ลูกสาวของเธอหวาดกลัวและเผชิญผลกระทบทางอารมณ์อย่างรุนแรง
คดีความข้างต้นที่ยื่นฟ้องต่อศาลสูงลอสแอนเจลิส ระบุว่าสำนักงานฯ และโรงเรียนประถมลอเรน สแปน ที่ได้ปิดตัวลงและเปิดใหม่ในชื่อโรงเรียนลอเรล ซีเนมาติก อารต์สครีเอทีฟ เทค แม็กเน็ต (Laurel Cinematic Arts Creative Tech Magnet) สร้างความอับอายแก่ลูกของเธอด้วยการให้เด็กหญิงร่วมโครงการเกี่ยวกับยุคสมัยที่สหรัฐฯ ยังใช้แรงงานทาส ซึ่งทำให้เธอวิตกกังวลและมีอาการป่วยทางจิตใจ
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
กระทรวงแรงงาน รับสมัครช่างชายไทย ทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จ้างงาน 3 ปี
ข่าวดี! ซาอุฯ เปิดรับแรงงานไทย พยาบาล ผู้ดูแลผู้ป่วย เงินเดือน 3 หมื่น - 1 แสน
พิตตส์เริ่มสังเกตว่า ลูกสาวมีอาการซึมเศร้าเมื่อเธอแทบไม่พูดไม่จานานสองสัปดาห์ในเดือนกันยายน 2017 ขณะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ก่อนจะเห็นทุ่งฝ้ายที่ปลูกในโรงเรียนตอนไปส่งลูกอีกราวหนึ่งเดือนต่อมา โดยเธอแจ้งให้รองอาจารย์ใหญ่รับทราบ ซึ่งครูได้อธิบายว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลูกกำลังอ่านอัตชีวประวัติของเฟรเดอริก ดักลาส ที่กล่าวถึงการเก็บฝ้าย และแปลงปลูกฝ้ายในโรงเรียนมีไว้ให้นักเรียนได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงว่าชีวิตของทาสนั้นเป็นอย่างไร
พิตตส์เสริมว่าเธอควรได้รับแจ้งว่าโรงเรียนจะจัดโครงการ "เก็บฝ้าย" ล่วงหน้า และแม้ลูกสาวของเธอจะไม่ต้องเก็บฝ้ายจริงๆ แต่เด็กหญิงก็ถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ ขณะเฝ้ามองเด็กคนอื่นทำกิจกรรมนี้
ทั้งนี้ แถลงการณ์จากโฆษกสำนักงานฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2017 ระบุว่าคณะผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวได้ถอนต้นฝ้ายออกจากพื้นที่โรงเรียนทันทีหลังทราบถึงความกังวลของพิตตส์