KBank เปิดสาขาโฮจิมินห์ เวียดนาม : นำ Digital Product Solutions ใช้เต็มรูปแบบ
ธนาคารกสิกรไทย มุ่งมั่นรุกตลาดเวียดนามเต็มตัว เปิดสาขาที่โฮจิมินห์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งใช้บริการดิจิทัลเพื่อเจาะกลุ่มคนเวียดนามให้มากที่สุด ทุกๆเซกเมนต์ ตั้งเป้าในปี 2023 กวาดยอดสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท และจะมีฐานลูกค้าบุคคล 1.2 ล้านราย
ธนาคารกสิกรไทย หรือ K Bank ถือเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรก ที่ นำ ดิจิทัล โปรดักส์ โซลูชัน Digital Product Solutions ในการลุยตลาดเวียดนาม และใช้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในเวียดนาม ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากเกือบจะถึง 100 ล้านคนอยู่แล้ว ดังนั้น นี่คือตลาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มจะเติบโตเร็ว สูงมาก ในอนาคต
จุดเด่นของการใช้ ดิจิทัล โปรดักส์ โซลูชัน Digital Product Solutions ของธนาคารกสิกรไทย ในเวียดนามนั้น ทำให้มีโอกาสจะบริการลูกค้าได้ในทุกๆเซกเมนต์ ทั้งกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นและต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจบริการ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอุตสาหกรรม และลูกค้าบุคคลและธุรกิจขนาดเล็ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งหมดนี้ ประชาชนเวียดนาม สามารถใช้บริการได้ผ่านทาง แอปพลิเคชั่น K Plus Vietnam , โดย ผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อบุคคล และระบบการรับชำระเงิน โดยนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีของธนาคารในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งของไทย ที่มียอดผู้ใช้แอป K PLUS ในประเทศเป็นแอป Mobile Banking ที่มีคนใช้งานมากที่สุด มีจำนวนกว่า 18.5 ล้านราย ไปต่อยอดการพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าในเวียดนาม
ทั้งนี้ การใช้แอป K PLUS Vietnam เป็นแกนหลักในการสร้าง Digital Lifestyle Ecosystem ให้แก่ลูกค้าบุคคล เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าได้ทั่วประเทศ และการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัล
โดยเริ่มจาก KBank Biz Loan ที่ให้สินเชื่อแก่ร้านค้าขนาดเล็ก เน้นเข้าถึงลูกค้าผ่านทางพันธมิตรและแพลตฟอร์มท้องถิ่นผ่านการลงทุนของ KASIKORN VISION ซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่ด้านการลงทุนของธนาคาร และการตั้ง KBTG Vietnam เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค
สำหรับ ธนาคารกสิกรไทย เพิ่งจัดพิธีเฉลิมฉลองการเปิดสาขาใหม่ในนครโฮจิมินห์ เวียดนาม อย่างเป็นทางการที่โรงแรม Sheraton Saigon Hotel & Towers เวียดนาม ไปเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2022 แต่การให้บริการนั้น ตัวสาขา ตั้งอยู่ที่ตึก Sun Wah Tower เขต 1 ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ย. 2021 แล้ว และได้รับการตอบรับจากผู้คนเวียดนามมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในพิธีเปิดธนาคารกสิกรไทย สาขาโฮจิมินห์ อย่างเป็นทางการนั้น ได้รับเกียรติ จาก บุคคลสำคัญที่มาร่วมงาน อาทิ นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) , สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) , นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และตัวแทนของธนาคารกลางประเทศเวียดนาม หรือ State Bank of Vietnam (SBV)
โดย ในงานเปิด กสิกรไทย สาขาโฮจิมินห์ นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงถึงเป้าประสงค์ดำเนินธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยในเวียดนาม โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่จะกลายมาเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงระดับโลกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี
นอกจากนี้ นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ยังเปิดเผยอีกว่า กสิกรไทย ยังมุ่งเน้นสร้างคุณค่าในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของธนาคารกสิกรไทย และเป้าหมายใหม่ในอนาคตของ KBank อีก นั่นคือ การเป็น 1. Future Finance , 2. Beyond Banking เพื่อเป้าหมายสู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน , และ 3. มุ่งเน้น ESG ซึ่งมันคือเทรนด์แห่งอนาคต เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก Environment, Social, และ Governance
ขณะที่ ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ย้ำจุดประสงค์ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพการบริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมผลักดันสาขาล่าสุดในเวียดนามเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านการเงินและการธนาคารที่ดีขึ้นอีกแก่ AEC
ทั้งนี้ การมาลุยตลาดเวียดนามของกสิกรไทยครั้งนี้ นี่คือโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ที่จะมี เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นหัวหอกสำคัญ พร้อมกับตั้งเป้าหมายมีลูกค้าบุคคลเวียดนาม 1.2 ล้านรายในปี 2023 ปล่อยสินเชื่อรวม 20,000 ล้าน พร้อมขยายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
เวียดนาม มีนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมเป้าหมายในการเป็น ศูนย์กลางด้าน เทคโนโลยี แห่งใหม่ของเอเชีย อีกทั้งเวียดนามยังเป็นประเทศมีอายุเฉลี่ยค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน มีการเติบโตของชนชั้นกลางอย่างมีนัยสำคัญ โดยเห็นได้จากอัตราการเติบโตของการอุปโภคบริโภคที่ 7% ใน 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังเปิดกว้างต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายทางดิจิทัล ให้สอดคล้องกับความเป็น ดิจิทัล ไลฟ์ ซึ่งมันเป็นเทรนด์ของโลกปัจจุบันไปแล้ว โดยพบว่าประชากรเวียดนามมากกว่า 50% ซื้อสินค้าออนไลน์ ตัวเลขนี้น่าจะเป็นการบ่งบอกอะไรได้ดีถึงโอกาสการเติบโตในการลุยเวียดนามครั้งนี้
