เครือเนชั่น จัดงาน Thailand Survival ระดม นักธุรกิจ-นักการเมือง ด้านเศรษฐกิจ แนะแนวทางประเทศไทยรอดพ้นวิกฤต ชูเทคโนโลยีหนุนการท่องเที่ยวดึงรายได้เข้าประเทศ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน-สาธารณะ พร้อมพัฒนาศักยภาพประชาชน หนุนสร้างรายได้ด้วยตัวเอง ยืนด้วยตัวเองได้
เครือเนชั่นจัดงาน Thailand Survival ไทย.. จะรอดอย่างไรในวิกฤตโลก ที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งมีนักธุรกิจ ภาคเอกชน และตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมให้ความเห็นและชี้แนะแนวทางก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ จำนวนมาก
โดย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยพร้อมเสนอตัวเป็นความหวังในการฟื้นเศรษฐกิจ โดยเริ่มตั้งแต่คนตัวเล็ก ในสภาวะเช่นนี้มีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ทุกวันนี้เราแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการจ่ายเงิน แต่ไม่ได้มองว่าทำยังไงให้เขามีรายได้ เรามองแต่ GDP ซึ่ง 30% ก็มาจากการส่งออก และบริษัทขนาดใหญ่ ก็ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่บริษัทสัญชาติไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสทช. แจง ครม. อนุมัติเพิ่มเฉพาะค่าตอบแทนเหมาจ่าย ยืนยันไม่มีค่าเสียโอกาส
VOLT City EV รถยนต์ไฟฟ้า ราคา 3-4 แสนบาท วิ่งได้ไกล 200 กม. เตรียมเปิดตลาดในไทย
ทางออกที่ตนเสนอมี 3 ประเด็นคือ
1. ตอนนี้เราต้องให้โอกาสอุตสาหกรรมไทยและ SMEs ได้ BOI ง่ายขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เติบโตในประเทศ และ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปแข่งขันต่างประเทศ เพื่อไม่มาปิดทับโอกาสของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
2. ต่อมาเราต้องดูความถนัดของประเทศ บ้านเราถนัดด้านเกษตร อาหาร สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ เรามีเทคโนโลยีมากมายที่จะมาส่งเสริมคุณภาพการผลิตและลดต้นทุนการเกษตร
3. สุดท้าย คือ เราต้องลดกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน เช่น เครื่องสำอางไทยไทยก็สู้เกาหลีได้ แต่เราติดขัดเพราะกฎเกณฑ์ เช่น อย. ควรให้ดูเฉพาะยารักษาโรค แต่สินค้าอื่นๆ เช่น อาหาร น้ำ ให้ใช้กฎหมายอื่นดูแล เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อลดขั้นตอนการขอใบอนุญาต
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ทางออกของประเทศไทย ที่วันนี้เราอยู่ในวิกฤตโคม่า สภาพประเทศที่ผ่านมาเราเจอมาหลายวิกฤต ล่าสุดคือโควิด-19 และสงครามการค้า
ทั้งนี้ 8 เดือนสุดท้ายกับอนาคต 4 ปี ทั้งนี้ตนในฐานะเคยอยู่ในรัฐบาล รู้จุดอ่อนจุดแข็งรัฐบาลพอสมควร ขอเสนอ 5 ทางออกให้กับรัฐบาล คือ ความเข้มแข็งจากภายใน/การพึ่งพาตนเอง, การดูแลค่าของชีพ, การอุดหนุนให้การช่วยเหลืออย่างมีเป้าเฉพาะ เลิกแจกเงิน เข้าดูแลกลุ่มเปราะบาง การแย่งคนละครึ่งหมดเวลาแล้ว เงินมีน้อยอย่าไปใช้กับคนที่มีโอกาส
การจัดการหนี้ และการปรับโครงสร้างการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และตนขอเตือนรัฐบาลในช่วง 8 เดือนสุดท้าย คือโครงสร้างการทำงานของรัฐบาล ซึ่งมีคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจแยกส่วนกัน
ส่วน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า ระบุว่า วิกฤติที่เผชิญอยู่ขณะนี้เป็นวิกฤติแบบฉับพลัน วิธีและเครื่องมือในปัจจุบันใช้ไม่ได้อีกต่อไป พร้อมเสนอทฤษฎี "ไม้เสียบลูกชิ้น" ออกกฎหมายหนุนเรื่องเด่นของประเทศ อย่างการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ , ส่งเสริมเรื่อง EV , เกษตรกรรม เปลี่ยนโฉมระบบราชการ อย่าคิดว่าเอกชนเป็นเพื่อนและหวังแค่เอกชนจะได้กำไรอย่างเดียว