ชัยวุฒิ แจง แนวทางรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
“ชัยวุฒิ” รับเนื้อหาซักฟอกเป็นความจริง ขอให้เข้าใจเป็นเพราะไทยมีอัตราใช้อินเทอร์เน็ตสูง สะท้อนผลงานรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” เผยตั้งหน่วยงาน-ประสานตำรวจ เตรียมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวชี้แจงหลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่อง มิจฉาชีพออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย
โดยนายชัยวุฒิ ยอมรับว่าเนื้อหาที่อธิบายทั้งหมดที่เป็นอาชญากรรมที่เกิดจากออนไลน์เป็นความจริง และไม่ได้เกิดเฉพาะที่ประเทศไทย แต่อยากให้เข้าใจว่าทุกประเทศที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียประสบปัญหานี้ทุกประเทศ และที่สำคัญประเทศไทยที่มีปัญหาหนัก ในช่วงที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน เป็นเพราะระบบอินเทอร์เน็ตที่ดีมากๆ มีคนใช้แพร่หลายมาก
ข่าวอื่นๆ เกี่ยวกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ
-
ปกรณ์วุฒิ อ้าง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ซุกหุ้น ให้นอมินีรับงานคมนาคม
-
สุทิน ซัดอนุทิน รัฐบาลเมากัญชา มาตรการควบคุมหละหลวม ละเมิดกติกาโลก
โดยมีอัตราการใช้ไม่ต่ำกว่า 80% ของคนทั้งประเทศ เช่นเดียวกันกับการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากนโยบาย Thailand 4.0 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีการสร้างความคุ้นชินให้กับพี่น้องประชาชนมาตลอด ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ใช้ E-Commerce เป็นอันดับต้นของโลก
แต่ในทุกที่ เมื่อมีคนดี ก็ต้องมีคนไม่ดี ต้องมีคนร้ายเข้ามาเอาเปรียบ สร้างปัญหาให้กับสังคม ไม่เฉพาะโลกออนไลน์เท่านั้น เพียงแต่วันนี้คนเข้ามาสู่โลกออนไลน์จำนวนมาก ทำให้มีคนร้ายตามเข้ามา ซึ่งปัญหานี้เป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลเร่งแก้ไขมาโดยตลอด
นายชัยวุฒิ ย้ำว่าได้มีการตั้งหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว การที่อภิปรายว่าไม่ทำอะไรเลยถือว่าไม่ดูข้อเท็จจริง วันนี้รัฐบาลได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ จากตำรวจร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดูแลคดีออนไลน์ทั้งหมด เช่น การขายของออนไลน์ การหลอกลวงลงทุน การค้ามนุษย์ เว็บพนัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ มีอำนาจในการกำกับดูแลข้อมูลต่างๆ และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่บังคับใช้ไปเมื่อไม่กี่เดือน
นายชัยวุฒิ ระบุว่าข้อมูลผู้บริโภคเมื่อก่อนไม่มีการคุ้มครอง ทำให้มีคนนำข้อมูลออกไปใช้ในทางที่ไม่ชอบ ทำให้เกิดความเดือดร้อน บางคนขายให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งถ้าบังคับใช้กฎหมายแบบเต็มรูปแบบแล้ว ความเชื่อมั่นในระบบจะดีขึ้น แต่ยอมรับว่าปัญหาไม่มีทางหมดไป เนื่องจากมิจฉาชีพก็จะคิดวิธีการใหม่
สำหรับการแก้ไขปัญหาตอนนี้ นายชัยวุฒิ ระบุว่าได้ให้ กสทช. กำหนดเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก แต่มิจฉาชีพก็ยังเปลี่ยนเป็นเครื่องแปลงสัญญาณจากเครื่องหมายบวกเป็นเบอร์โทรในประเทศ ตนได้ประสานให้จับกุมแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด ต้องจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้
“ถ้าอยู่เมืองไทย ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่วันนี้เค้าไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเราแบบที่เราทราบนะครับ คนไทยไปทำงานด้วย เพราะถ้าไม่ใช่คนไทยโทษจะหลอกคนไทยด้วยกันไม่ได้ ถามว่าคนไทยถูกหลอกไปไหม มีบ้างโดนหลอก แต่ที่สมัครใจไปทำงานก็มี”
นายชัยวุฒิ ระบุต่อว่า แม้เรื่องที่ยากอย่างการอายัดบัญชีม้า วันนี้เริ่มคุยกับธนาคารว่าบัญชีไหนเข้าข่ายให้บล็อกทันที หรือมีการร้องเรียนก็มีการตั้งระบบจัดการอายัดบัญชีภายในไม่กี่ชั่วโมง ยอมว่าดำเนินการเร็วที่สุดแล้ว แต่ขั้นตอนต้องมีกระบวนการรวบรวมหลักฐาน
