แพทย์เตือน! โอไมครอน BA.5 ระบาดเร็ว หลบภูมิคุ้มกันเก่ง ติดเชื้อซ้ำได้บ่อยกว่าสายพันธุ์อื่น ต้องมีวัคซีนที่ดี และยาที่ได้ผลมากกว่านี้ ด้านหมอธีระเผยพันธุกรรมแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่าง BA.1 และต่างจาก BA.2 มาก
"โอไมครอน" สายพันธุ์ย่อย BA.5 ไวรัสมีความแข็งแรงขึ้นมาก ดื้อต่อภูมิคุ้มกันสูงและแพร่ระบาดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ ชี้วัคซีนเข็มกระตุ้น สำคัญเพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
ด้าน ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda โดยระบุข้อความว่า
BA.5 เป็น sublinage ของ โอมิครอน (Omicron) ที่ร้ายที่สุด ที่เราเคยเห็นมาระบาดเร็วกว่า โตเร็วกว่า(แบ่งตัว) หลบหนีภูมิคุ้มกันเดิมได้มากกว่าอย่างน้อยในหนูทำให้อาการรุนแรงกว่า และติดเชื้อซ้ำได้บ่อยกว่าพี่น้องโควิดก่อนหน้านี้
เราต้องการวัคซีนที่ดีกว่านี้ เราต้องการยาที่ได้ผลมากกว่านี้
#สงครามครั้งนี้ยังไม่จบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• หมอธีระ เผย โอไมครอน BA.5 ไวรัสมีความแข็งแรง ระบาดเร็ว ดื้อต่อภูมิถึง 2.5 เท่า
• หมอเฉลิมชัย เผยโอไมครอน BA.5 จะเป็นสายพันธุ์หลักในไทยเดือน ก.ค.
• ดร.อนันต์ เผย BA.4 -BA.5 อาการผู้ป่วยชัดกว่าโอไมครอนรุ่นแรก
ทางฝั่งของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) โดยระบุว่า
เกี่ยวกับ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5
เป็นลูกหลานในตระกูล Omicron ที่กลายพันธุ์แตกออกมา โดยมีลักษณะพันธุกรรมแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่าง BA.1 และต่างจากรุ่นพี่ BA.2 มาก
ในแง่ความแข็งแรงหรือ fitness ของไวรัสนั้น หากเทียบกันในแต่ละสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นรอบสองปีกว่าที่ผ่านมา จะพบว่า ไวรัสโรคโควิด-19 มีความแข็งแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สายพันธุ์อู่ฮั่น D614G อัลฟ่า เดลตา จนมาถึง Omicron BA.1 BA.2 ที่สูงสุดตามลำดับ
แต่สำหรับ "BA.5" นั้นแม้จะยังไม่ได้คำนวณและพล็อตลงไปในกราฟก็ตาม
ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่ามีสมรรถนะในการแพร่มากกว่ารุ่นพี่อย่าง BA.1 และ BA.2 อย่างชัดเจน
โดยมีอัตราการเติบโต/ขยายเพิ่ม สูงกว่า และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.1 ราว 3 เท่า ทำให้ได้รับการประเมินว่าจะมี Viral fitness สูงกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยมีมา
ด้วยข้อมูลข้างต้น ทำให้เราต้องตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตัว ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็น เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว หากไม่ป้องกันตัว ก็จะติดเชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้
และมีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID (ลองโควิด)
ดังนั้น การออกตะลอนนอกบ้าน ทำมาค้าขาย ศึกษาเล่าเรียน ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้น
จึงควรใส่หน้ากากเสมอ ให้คุ้นชิน เป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อได้มาก
ที่มา : Nithi Mahanonda , Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)