อีลอน มัสก์ ได้ออกมาพูดการยืนยันเกี่ยวกับบริษัทเทสลา ว่าพนักงานจะได้รับเงินเดือนลดลงหน้า โดยรวมจะลดลงราว 3.5% และคาดว่าจำนวนพนักงานที่ทำงานแบบรายชั่วโมงจะเพิ่มขึ้น
เหตุการณ์สำคัญของบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก อีลอน มัสก์ ได้ออกมาพูดถึงการลดพนักงานลดและปรับเงินเดือนต่ำลง
โดยอ้างว่าบริษัทอยู่ใน ‘ภาวะถดถอย’ ซึ่งได้ระบุชัดเจนว่าจะลดเงินเดือนของพนักงานลงสูงถึงประมาณ 10% ใน 3 เดือนข้างหน้าและจะเน้นการรับพนักงานแบบพาร์ทไทม์หรือรายชั่วโมงเป็นหลัก
ก่อนหน้านี้พนักงานเทสลาหลายคนได้ถูกสั่งให้ยุติการทำงาน ทำให้อดีตพนักงานเทสลา ได้ฟ้องดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลิกจ้างกับอดีตบริษัทของตัวเอง
โดยตามกฎหมายการแจ้งการปรับและฝึกอบรมพนักงานใหม่ นายจ้างจะต้องแจ้งการเลิกจ้างจำนวนมากหรือการปิดโรงงานล่วงหน้า 60 วัน
อีลอน มัสก์ ได้พูดถึงข่าวนี้ว่า ″นั่นเป็นคดีเล็ก ๆ ที่มีผลเล็กน้อย” เขากล่าว “อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเทสลากลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางจักรยานหรือเรื่องร้ายแรงกว่านั้นมาก”
อีลอน มัสก์ ได้เผยว่า เขาได้มีความรู้สึกแย่มากกับเศรษฐกิจ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักเศรษฐศาสตร์กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของ "ภาวะเศรษฐกิจถดถอย" ซึ่งราคาสูงขึ้น แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจแย่ลง
ก่อนหน้านี้อีลอน มัสก์ เขาเพิ่งส่งจดหมายถึงพนักงานของ Tesla ว่าพวกเขาควรเข้ามาในสำนักงานอย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องลาออกจากบริษัท
บริษัทยังต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติต่อคนงานผิวดำ ในเดือนกุมภาพันธ์ กรมการจ้างงานและการเคหะแห่งแคลิฟอร์เนียฟ้องเทสลาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและการล่วงละเมิด
ขณะนี้เทสลาได้เกิดความวุ่นวายเพราะเนื่องจากต้องเร่งในการผลิตและสร้างโรงงานเพิ่ม แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่อย่าง อีลอน มัสก์ ต้องทำการปลดพนักงาน ด้วยเหตุใดๆก็ตามแต่ก็ทำให้ทั่วโลกเห็นโดยชัดว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งนี้ได้ส่งผลถึงโดยทั่วกัน