แพทย์นิติเวชและนักนิติพิษวิทยา ออกโรงเตือนผู้ใช้กัญชา มีโอกาสเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ โดยไม่จำกัดอายุ และไม่จำเป็นต้องมีโรคประจำตัว ไม่ได้เกิดจากการเสพเกินขนาด แต่เกิดจากผลข้างเคียงของกัญชา
หลังประเทศไทยปลดล็อกกัญชา อย่างเป็นทางการ ประชาชนจำนวนมากแห่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา และอาหารเพื่อลิ้มลอง ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านจะเห็นข่าวว่ามีประชาชนหลายรายที่เกิดอาการแพ้ มึนเมา จากผลข้างเคียงของกัญชา และบางรายอาการหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
ด้าน นายแพทย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont ประเด็นสำคัญที่อยากเตือนเกี่ยวกับผลข้างเคียงของกัญชา ในฐานะแพทย์นิติเวชและนักนิติพิษวิทยา โดยระบุว่า
มีประเด็นสำคัญที่อยากเตือนในฐานะแพทย์นิติเวชและนักนิติพิษวิทยา ขอสรุปไว้ตรงนี้ก่อนเลยครับ เผื่อใครขี้เกียจอ่านยาวๆ
“ผู้ใช้กัญชามีโอกาส (มีโอกาส หมายถึงไม่ได้เจอมาก แต่ก็เจอได้) เสียชีวิตกะทันหันจากโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดในสมองแตก โดยไม่จำกัดอายุ และไม่จำเป็นต้องมีโรคประจำตัว ****ขอเน้นว่า ไม่ได้เกิดจากการแพ้กัญชา ไม่ได้เกิดจากการเสพเกินขนาด แต่เกิดจากผลข้างเคียงของกัญชา”
ข้อสรุปข้างต้นนี้มาจากงานวิจัยแบบรวมรวมข้อมูลงานวิจัย ของนักนิติพิษวิทยาชื่อดังของต่างประเทศ โดยตีพิมพ์เมื่อปี 2019 (ตามรูป 1 หรือใครอยากอ่านเต็มๆ ตาม link นี้ https://www.naac.org.cy/uploads/e53d88d15c.pdf)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เช็กเลย! "อาการแพ้กัญชา" แบบไหนควรพบแพทย์ และวิธีแก้เมาแบบเร่งด่วน
• เช็กที่นี่ ปลดล็อกกัญชา ทำอะไรได้บ้าง ? ปลูกได้ไหม ? สูบได้หรือเปล่า ?
• เปิดประวัติ ‘Bob Marley’ ทำไมจึงเป็นไอคอนของกัญชา
รายละเอียดจากงานวิจัยที่สำคัญมีดังนี้
1. พบคนตาย 13 คน ที่ผู้วิจัยคิดว่าเสียชีวิตจากผลข้างเคียงของกัญชา โดยมีอายุตั้งแต่ 17-52 ปี บางรายไม่มีโรคประจำตัว ทุกเคสไม่เจอสารพิษอื่น เคสเกือบทั้งหมดตรวจหากัญชาในเลือดแล้วพบว่าไม่ได้สูงในลักษณะเสพเกินขนาด
2. พบคนป่วย 35 คน อายุ 15-53 ปี เสพกัญชาเพียงอย่างเดียวแล้วมีอาการผิดปกติจนต้องมาที่ห้องฉุกเฉิน บางรายไม่มีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่ตรวจพบกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหัวใจเต้นผิดจังหวะ
3. ตามข้อ 1. และ 2. เคสลักษณะนี้มีในไทยแล้วครับ ผมได้รับการบอกเล่ามาจากแพทย์คนตรวจเองเลยว่า ผู้ป่วยรายหนึ่งให้ประวัติว่า ผู้ป่วยไม่เคยใช้กัญชา แต่อยากลอง จึงสูบกัญชาหนึ่งครั้ง หลังสูบมีอาการแน่นหน้าอก จึงนำส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลตรวจพบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ช่วยไว้ไม่ทัน จนผู้ป่วยเสียชีวิต
4. มีงานวิจัยหนึ่งที่วิจัยในคนไข้เกือบ 4 พันคนแล้วพบว่า หลังสูบกัญชาไปหนึ่งชั่วโมงจะมีอัตราเสี่ยงที่เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ 4.8 เท่า
5. เรื่องนี้ตรงกับ status เก่าผมที่มีงานวิจัยที่พบว่า รัฐในอเมริกาหลังให้กัญชาเสรี จะมีคนป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มมากขึ้น
สุดท้ายเรื่องเสรีกัญชาในไทยแบบมีการควบคุมให้เท่าประเทศอื่นๆ (ไม่ใช่ปัจจุบันนี้ เพราะตอนนี้ไทยยังเสรีสุดในโลก) ผมยังพอยอมรับได้ แต่ต้องมีประเด็นที่ควรทำ ดังนี้
1) เรื่องอาการรุนแรงที่เกิดจากการใช้กัญชา จนอาจทำให้เสียชีวิตกะทันหัน ควรต้องเป็นคำเตือนที่มีการเผยแพร่ให้ประชาชนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากกระทรวง สธ เช่น ต้องเตือนคนใช้ว่า ถ้ามีอาการเช่น… หลังใช้กัญชา ให้รีบมาพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาการแบบนี้เกิดได้กับคนทุกคน
มีคนบอกว่า เหล้ากับบุหรี่ ทำให้คนตายเยอะกว่ากัญชา จริงๆ ก็เป็นคำพูดที่ถูกต้องครับ แต่เหล้ากับบุหรี่ถ้าใช้ไม่เยอะ ไม่มีผลข้างเคียงจนทำให้คนตายนะครับ ต่างจากการใช้กัญชาที่อาจทำให้ตายได้ (อ้างอิงจากงานวิจัยนี้) แล้วจริงๆ ผมคิดว่าที่กัญชาตายน้อยเพราะมัน ไม่ได้ใช้ทั่วโลกมากมายแบบเหล้ากับบุหรี่ ถ้าใช้มากแบบเหล้ากับบุหรี่อาจเจอเคสเยอะกว่าเหล้ากับบุหรี่ได้
2) ทางรัฐควรลงโทษร้านค้าที่ใส่กัญชาในอาหารโดยไม่แจ้งคนซื้อ เพราะมันอาจทำให้คนกินเสียชีวิตได้ตามงานวิจัยนี้ ซึ่งจริงๆ การใส่กัญชาในอาหาร กรณีเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต้องทำตามกฎหมายนี้ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/.../2564/E/168/T_0022.PDF กรณีเป็นร้านอาหารต้องทำตามกฎหมายนี้ https://laws.anamai.moph.go.th/th/practices/download/?did=208766&id=90623&reload= จากตัวกฎหมายเห็นได้ว่าต้องมีการระบุชัดเจนถึงการใส่กัญชาในอาหารด้วย คือจะทำกินเองไม่ผิดกฎหมายอยู่แล้วแต่ถ้าจะขายต้องตามกฎหมายนี้เท่านั้น ดังนั้นถ้ารัฐเจอคนแอบใส่ (ซึ่งเห็นมีหลายข่าวแล้ว) ควรลงโทษให้เป็นตัวอย่าง
3) สุดท้าย ที่อยากให้รัฐทำคือ ควรทำประชามติเลยครับ ว่าการเสรีกัญชาควรมีไหม หลายๆ ประเทศ หรือบางรัฐในอเมริกาเค้าก็ทำก่อนให้มีการเสรีกัญชาครับ ปัจจุบันมีทั้งคนที่ต้าน และคนที่สนับสนุน ก็ให้คนทั้งประเทศมาโหวตให้รู้กันเลยครับ