svasdssvasds

หมอธีระ เผย WHO สั่งจับตา "เดลตา" ยกให้เป็นสายพันธุ์น่ากังวลที่เคยระบาด

หมอธีระ เผย WHO สั่งจับตา "เดลตา" ยกให้เป็นสายพันธุ์น่ากังวลที่เคยระบาด

"หมอธีระ" เผย WHO ประกาศ เดลตาเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ที่เคยระบาด เช่นเดียวกับอีก 3 สายพันธุ์ คืออัลฟ่า เบต้า และแกมม่า มิได้หมายความว่าจะกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้ ยังคงต้องเฝ้าระวังป้องกันให้ดี

 สถานการณ์ โควิด-19 วันนี้ (12 มิ.ย. 65) โดยรวมดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,474 ราย ติดเชื้อสะสม 4,484,863 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มลดลงเหลือ 20 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 30,334 ราย

 ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat Update สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด สายพันธุ์ "โอไมครอน" Omicron ล่าสุด องค์การอนามัยโลกออกรายงาน WHO Weekly Epidemiological Report เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา จากการติดตามสายพันธุ์ไวรัส พบว่า เดลตาเหลือน้อยมาก จนทำให้ WHO ประกาศว่า เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่เคยระบาด (previously circulating VOC) เช่นเดียวกับอัลฟ่า เบต้า และแกมม่า 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โควิดวันนี้ 12 มิ.ย. 65 ยอดติดเชื้อรายใหม่ 2,474 ราย เสียชีวิต 20 ราย

• สหรัฐฯ พบโควิดโอไมครอนสองสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กว่า 13%

• ยอดดับจาก "โอไมครอน" ไทย ติดอันดับ 7 ของโลก แนะการสวมหน้ากากอนามัยยังสำคัญ

 อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่า จะกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้ ยังคงต้องเฝ้าระวังป้องกันให้ดี สำหรับ "โอไมครอน" Omicron นั้น BA.1, BA.3 นั้นน้อยมาก สายพันธุ์ที่ยังครองสัดส่วนสูงสุดคือ BA.2 และ BA.2.x ซึ่งครองอยู่ราว 44% และ 19% ตามลำดับ แต่ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือ BA.2.12.1, BA.4, และ BA.5 โดย BA.2.12.1 (พบครั้งแรกในอเมริกา) ขณะนี้ครองสัดส่วนการระบาดสูงถึง 28% และตรวจพบแล้วใน 53 ประเทศ ในขณะที่ BA.5 พบใน 47 ประเทศ มีสัดส่วน 5% และ BA.4 พบใน 42 ประเทศ มีสัดส่วน 2%

ทั้งนี้ทั้งสามสายพันธุ์ย่อยที่กล่าวมา พบว่ามีสมรรถนะการแพร่ได้เร็วขึ้น และหลบหลีกภูมิคุ้มกันมากขึ้นกับสายพันธุ์ก่อนหน้า

ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ชี้ให้เห็นว่า BA.4 และ BA.5 น่าจะมีความรุนแรงของโรคไม่ต่างจากเดิม ส่วน BA.2.12.1 นั้นยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปเรื่องความรุนแรงของโรคได้

..สำหรับไทยเรา ทุกระลอกที่ผ่านมา จะตามหลังจากประเทศอื่นๆ ที่แพร่ระบาดมาก่อนราว 6-8 สัปดาห์

ยิ่งในปัจจุบัน มิได้มีการรายงานจำนวนติดเชื้อใหม่แต่รายงานเฉพาะที่ป่วย รวมถึงการตรวจคัดกรองโรคในระบบก็ลดลงมาก หากไม่ป้องกันตัวให้ดี เวลามีการระบาดปะทุขึ้นมา กว่าจะทราบเวลาก็ล่วงเลยไปมากแล้วได้

ความใส่ใจสุขภาพของตนเอง รักตนเอง ป้องกันตนเอง เป็นสิ่งสำคัญ

หากเฮโลสาระพาตามกระแสกิเลส ถอดหน้ากากทิ้ง แล้วไปทำกิจกรรมเสี่ยง ไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง ก็จะติดเชื้อแพร่เชื้อกันได้มาก อย่าลืมว่าสถิติรายวันของไทยยังติดอันดับต้นๆ ของโลกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นแม้ว่าจะปรับการรายงานจนตัวเลขลดลงไปมากแล้วก็ตาม สถานการณ์จริงจึงยังไม่ควรไว้วางใจ

โควิด ไม่จบแค่หาย แต่ป่วยได้ตายได้และเสี่ยงต่อภาวะ Long COVID ที่จะบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะในการใช้ชีวิตและการทำงาน รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม

การใส่หน้ากากเวลาออกไปตะลอนนอกบ้านนั้นเป็นหัวใจสำคัญที่ควรทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

 

ที่มา : Thira Woratanarat

related