"ยุทธการเด็ดหัวฯ" ฝ่ายค้านยัน เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 15 มิถุนายนนี้
พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคล วันที่ 15 มิถุนายนนี้ ใช้ชื่อปฏิบัติการ”ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน”
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงมติพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ในชื่อ ‘ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ โดยจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล โดยมีกรอบประเด็นข้อกล่าวหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนี้
1. ความผิดพลาด บกพร่องในการบริหารราขการแผ่นดิน
2. การจงใจผ่าผืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กระทำผิดต่อกฎหมาย และผ่าผืนมาตรฐานจริยธรรม
3. การทุจริต ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์
4. การไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือเรื่องที่เราเคยอภิปรายทักท้วงเอาไว้
5. การละเมิดสิทธิมนุษยชน
6. การทำลายประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า สำหรับรัฐมนตรีที่เข้าข่ายถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ประกอบด้วย ‘หัวขบวน’ รัฐบาล 1 รายแน่นอนแล้ว
ส่วน ‘นั่งร้าน’ ที่เหลือจะมาจาก 3 พรรคการเมือง ทั้งภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐอีก 9 ราย แต่จะเป็นใครบ้างนั้น ทั้งหมดมีความชัดเจนในวันที่มีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 15 มิถุนายนนี้
ประธานวิปรัฐบาล ยันคุมเสียงพรรคร่วมฯ ได้
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ซึ่งมีทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยยืนยันว่าวิปรัฐบาลจะยังคงสามารถควบคุมเสียงการลงมติของพรรคร่วมรัฐบาล และรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ได้ ซึ่งพิจารณาได้จากการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ในวาระแรกที่ผ่านมา
พร้อมย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเหนียวแน่นไม่มีอะไรน่ากังวลและอาจจะมีเซอร์ไพร์สในการลงมติด้วย หลังฝ่ายค้านพยายามด้อยค่ารัฐบาล และยังมั่นใจด้วยว่า ในการบริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ มีการระมัดระวังในเรื่องการทุจริตในการทำหน้าที่เสมอ
โดย นายนิโรธ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยังชี้แจงย้ำถึงการปรับนโยบายการสื่อสารของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่เกี่ยววิกฤตศรัทธา เพราะยังมั่นใจว่า ประชาชนยังศรัทธาต่อพรรคพลังประชารัฐ โดยจะเชิญสื่อมวลชนที่คร่ำวอดในวงการ มีความอาวุโสในวงการมาวิพากษ์วิจารณ์ให้ความเห็นต่อพรรคฯ ผ่านรัฐมนตรี ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคฯ เพื่อนำมาทบทวนต่อการทำงานในอนาคต
พร้อมยืนยันว่าการทบทวนการสื่อสารครั้งนี้จะทันต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน และเชื่อว่าประชาชนยังมองเห็นผลงานที่รัฐบาลได้ดำเนินการ แม้จะเกิดปัญหาโรคระบาดและเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีที่ที่พล.อ.ประวิตร แต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคนั้น นายนิโรธชี้แจงว่า จะเป็นการมอบหมายการชี้แจงเพิ่มเติมจากพล.อ.ประวิตรในประเด็นที่ขาดเหลือให้ครบถ้วน
