ญี่ปุ่น ขยายขีดจำกัดคนเดินทางเข้าประเทศ เป็น 20,000 คน/วัน

วันนี้ญี่ปุ่นได้เพิ่มขีดจำนวนจำกัดของผู้เดินทางเข้าประเทศเป็น 20,000 คน/วัน และอนุญาตให้คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องตรวจโควิด-19 รวมถึงไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง จาก 98 ชาติ ที่ถูกกำหนดในลิสต์ "สีน้ำเงิน" ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงโควิด-19 ต่ำ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน เกาหลีใต้ และ อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

และอีก 99 ประเทศที่อยู่ในกลุ่ม "สีเหลือง" ได้แก่ เวียดนาม อินเดีย และบรูไน ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 หรือกักตัว หากพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามมาตรฐานที่ญี่ปุ่นกำหนดครบ 3 เข็ม นั่นหมายความว่า ผู้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นกว่า 80% ได้รับการยกเว้นจากการตรวจโควิด-19 และการกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง

ทั้งนี้ ผู้ที่มาจากกลุ่มประเทศสีเหลืองซึ่งไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีน รวมทั้งผู้ที่มาจากกลุ่ม "สีแดง" เช่น ปากีสถาน ฟิจิ แอลเบเนีย และเซียร์ราลีโอน จะไม่ได้รับการยกเว้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• ญี่ปุ่น ยกเลิกทัวร์ทดลองก่อนเปิดประเทศ เหตุทัวร์ไทยติดโควิด-19
• นายกฯญี่ปุ่น ลั่นดีเดย์ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 มิ.ย. นี้
• นายกฯญี่ปุ่น ขอนักท่องเที่ยวต่างชาติ สวมหน้ากากอนามัย

การผ่อนมาตรการดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นพยายามลดความซับซ้อนของข้อกำหนดในการเดินทางเข้าสู่ประเทศสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่นถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศสำหรับมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมีแผนจะกลับมารับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นระยะตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นไป ภายใต้แผนนี้ การเดินทางมาถึงเพื่อวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวจะถูกจำกัดไว้สำหรับรูปแบบทัวร์ที่มีไกด์ทัวร์จากกลุ่มประเทศสีน้ำเงินเท่านั้น ซึ่งจะรวมอยู่ในโควตาขาเข้า 20,000 คน/วัน ด้วยเช่นเดียวกัน

"เราต้องการผ่อนคลายมาตรการควบคุมชายแดนอย่างต่อเนื่องในขณะที่สร้างสมดุลในการป้องกันการติดเชื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทางสังคม" ฮิโรคาซึ มัตซึโนะ (Hirokazu Matsuno) หัวหน้าเลขาธิการ กล่าวในการแถลงข่าว

พฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว ญี่ปุ่นได้สั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศทั้งหมด และตั้งแต่นั้นมาจึงค่อยผ่อนคลายมาตรการควบคุม และข้อจำกัดต่าง ๆ เนื่องจากประเทศมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่ดี และในขณะที่ประเทศอื่น ๆ เริ่มกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ใช่กลุ่มทัวร์ น่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงมีความกังวลหากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำลังใกล้เข้ามา

ความจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ญี่ปุ่นได้เปิดโครงการนำร่อง ด้วยการต้อนรับกลุ่มทัวร์จาก 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และไทย เข้ามาท่องเที่ยวแล้ว แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ระบุว่า ชาวไทยหนึ่งในสี่คนที่เข้าร่วมโครงการมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ทำให้ต้องระงับการเดินทาง เนื่องจากไม่ทราบเส้นทางของการติดเชื้อ

จากการทดลองนี้ รัฐบาลมีแผนที่จะสร้างแนวทางเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับโรงแรมและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก่อนเริ่มรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด

สัปดาห์ที่แล้ว ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับรัฐสภาว่า จะมีการขอให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอื่น ๆ เพื่อป้องกันโควิด-19 เมื่อเดินทางมาเยือน

ทั้งที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเคยระบุว่า ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไปเมื่ออยู่ข้างนอก พร้อมกับแนะนำให้ทุกคนถอดหน้ากากอนามัยออกเมื่ออยู่ห่างจากบุคคลอื่นมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากความร้อนและความชื้นในฤดูร้อนเป็นเหตุเสี่ยงต่ออาการลมแดดที่เพิ่มมากขึ้น