รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ประกาศ ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ หลังคุมเข้มมานานกว่า 2 เดือน อนุญาตประชาชนออกจากบ้านได้ ขนส่งสาธารณะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ
รัฐบาลเซี่ยงไฮ้จะยกเลิกการล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งผ่านมานานกว่า 2 เดือนในเวลาเที่ยงคืนของวันพุธนี้ โดยอนุญาตให้ประชาชนส่วนใหญ่ของเมืองสามารถออกจากบ้านได้ และรับประกันว่าการขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทาง และรถไฟ จะกลับมาให้บริการตามปกติ
เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าของจีนซึ่งมีประชากรประมาณ 25 ล้านคน ถูกล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการแบ่งล็อกอย่างละครึ่งเมือง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิดโอไม่ครอน (โอมิครอน)
ทั้งนี้ กำหนดให้ประชาชนจำเป็นต้องมีใบรับรองการทดสอบ PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะ พร้อมกับระบุว่า "ในปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดในเซี่ยงไฮ้ได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง"
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
ในเซี่ยงไฮ้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันอยู่ที่ 67 รายในวันอาทิตย์ ถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มล็อกดาวน์ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขของจีน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่างภายใต้นโยบาย "ปลอดโควิด" ที่รุนแรงของประเทศ แต่การขนส่งสาธารณะยังคงปิดอยู่ และผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตให้ออกไปในพื้นที่จำกัดเท่านั้น
เนื่องจากการเคลื่อนไหวของผู้คนถูกจำกัดอย่างมีนัยสำคัญในเซี่ยงไฮ้ หลายคนกล่าวว่าพวกเขารู้สึกผิดหวังกับข้อจำกัดที่ครอบคลุมทุกอย่างที่กำหนดโดยทางการ
ทั่วประเทศจีน รวมทั้งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศ ผู้คนจำนวนมากถูกห้ามไม่ให้ออกจากบ้านหรือย่านที่พักอาศัย และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางธุรกิจและผู้บริโภคในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
จีนได้แสดงความตั้งใจที่จะดำเนินนโยบายเกี่ยวกับโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อไป แม้จะปิดโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกที่ปักกิ่งเมื่อต้นปีนี้ก็ตาม
ผู้สังเกตการณ์จีนเชื่อว่าพรรคคอมมิวนิสต์มีแนวโน้มที่จะรักษานโยบายไว้อย่างน้อยก็จนกว่าจะสิ้นสุดการประชุมสองทศวรรษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะได้รับเลือกให้เป็นผู้นำอีกครั้ง
พวกเขากล่าวว่า แทนที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลือกที่จะคุมมาตรการเข้มเพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อยู่หมัด