ดีแทค ประกาศความพร้อมรับการบังคับใช้พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตอกย้ำคุณค่าองค์กรด้านธรรมาภิบาลและหลักสิทธิมนุษยชนที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กร ชี้พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นหมุดหมายสำคัญนำพาประเทศสู่สังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน
ดีแทค ประกาศความพร้อมรับการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ เผยเตรียมความพร้อมมากว่า 2 ปี โดยเริ่มพัฒนานโยบายความเป็นส่วนตัว ออกแนวปฏิบัติ และบังคับใช้ภายในองค์กร ตามแนวทางของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรปหรือ GDPR และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 (PDPA) ของไทย ด้วยเส้นทางจากการพัฒนาแนวนโยบายสู่หลักปฏิบัติ ผ่านการออกแบบกระบวนการทำงาน การเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ตอกย้ำคุณค่าองค์กรด้านธรรมาภิบาลและหลักสิทธิมนุษยชนที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กร ชี้พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เป็นหมุดหมายสำคัญนำพาประเทศสู่สังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน
นายสตีเฟ่น เจมส์ แฮลวิก รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคมีจุดยืนในการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยหลักการรักษาสิทธิมนุษยชน ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีหน้าที่สำคัญในการเคารพในหลักความเป็นส่วนตัว (Privacy) และเสรีภาพในการแสดงออกสำคัญ (Freedom of Expression) เราจึงปฏิบัติและดำเนินงานอย่างเคร่งครัด โดยพัฒนากระบวนการการทำงาน และความท้าทายต่างๆ กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของไทยหรือ PDPA ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทยในการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงทางข้อมูลของผู้บริโภค ซึ่งดีแทคสนับสนุนและยินดีปฏิบัติตามอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ธุรกิจ และสังคมส่วนรวม”
“ความเชื่อมั่นลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินกิจการของดีแทค โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ยุคแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น AI (ปัญญาประดิษฐ์) IoT (อินเทอร์เน็ตสรรพสิ่ง) และ 5G จะทำให้เกิดและต้องการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลในการส่งมอบคุณค่าลูกค้า ดังนั้น ความโปร่งใสจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้น”
สังคมดิจิทัลนำมาซึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก แต่ขณะเดียวกัน การใช้ข้อมูลจำต้องคำนึงถึงสิทธิผู้บริโภคตามกฎหมายเป็นสำคัญ ดังนั้น ความเป็นส่วนตัวลูกค้า (Privacy) ถือเป็นสิ่งที่ดีแทคให้ความสำคัญสูงสุดในการพัฒนาสินค้าและบริการของเรา นอกจากนี้ ยังถือเป็นการตอกย้ำซึ่งหลักการด้านสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาลที่ดีแทคมุ่งส่งเสริมผ่านบริการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ทั่วถึงและเท่าเทียม ดูข้อมูล ดีแทคกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ได้ที่ https://www.dtac.co.th/sustainability/th/rb
ดีแทคพัฒนาสินค้าและบริการโดยยึดหลักความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญ (Privacy by design) เพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ ปลอดภัย และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าไม่ว่าพนักงานจะทำงานจากที่ใดก็ตาม
ดีแทคมีกระบวนการจัดการกับข้อมูลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล คือ
กระบวนการดังกล่าวอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และขั้นตอนการบริหารจัดการ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดโครงสร้างการทำงานของ DPO ให้เป็นอิสระ สามารถรายงานการทำงานแก้คณะผู้บริหาร (Management Committee) ได้โดยตรง เพื่อให้ความคิดเห็นของ DPO คงไว้ซึ่งหลักการความเป็นส่วนตัวและหลีกเลี่ยงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของ DPO
“ดีแทคมีความพร้อมต่อการปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยได้พัฒนาเป็นนโยบายและแนวทางการทำงาน ตลอดจนบังคับใช้เป็นการภายในมาแล้วกว่า 2 ปี มีการอบรมและสร้างการรับรู้กับพนักงานต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว 100%”
ทั้งนี้ ลูกค้าและผู้สนใจ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของดีแทค ได้ที่ https://www.dtac.co.th/sustainability/th/privacy/