จากมติของ กกพ. (สำนักงาน กกพ.) เห็นชอบประกาศการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย ซึ่งนอกจากประหยัดลดภาระค่าไฟฟ้าแล้ว ส่วนที่เหลือยังสามารถนำมาขายเข้าโครงการผลิตไฟฟ้าได้ด้วย
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบประกาศการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ โดยรับซื้อต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 สอดรับกำหนด เป้าหมายปีละ 10 เมกะวัตต์
สำหรับพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 5 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5 เมกะวัตต์ โดยรับซื้อไฟฟ้าที่ 2.20 บาทต่อหน่วย ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัญญา (SCOD) ภายใน 270 วัน นับแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
โซลาร์เซลล์พลังงานกลางคืน นวัตกรรมใหม่เพิ่มทางเลือกพลังงานหมุนเวียน
เครื่องแรกของโลก ลำโพงพลังงานโซลลาร์เซลล์ กันฝน ทนร้อน ไม่ต้องชาร์จ
การประกาศครั้งนี้เป็นการดำเนินการโครงการโซล่าร์รูฟท็อปภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัยในปี 2565 ต่อเนื่องจากการดำเนินการในปี 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ประกาศครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการโดยมีสาระสำคัญ ของประกาศดังนี้
(1) ไม่จำกัดเวลาการยื่นคำขอขายไฟฟ้า แต่ยังคงเน้นกระบวนการพิจารณาคำขอขายตามเวลาที่กำหนดและผู้เสนอขายไฟฟ้าส่วนเกินจะต้องดำเนินการติดตั้งและตรวจสอบระบบให้แล้วเสร็จ ภายใน 270 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และหาก ดำเนินการไม่ทันตามกำหนดให้ยื่นหนังสือถึงการไฟฟ้าแจ้งความพร้อม เพื่อขอขยายเวลาได้อีก 90 วันก่อนยกเลิกสัญญา
(2) กรณีคำขอขายไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาในปี 2564 ให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายแจ้งผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าดำเนินการ ต่อตามขั้นตอนตามประกาศฉบับนี้
(3) กรณีคำขอขายที่ผ่านการพิจารณาแล้วในปี 2564 และยังไม่ถูกยกเลิกให้การไฟฟ้าแจ้งผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้ามาลงนามสัญญา ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้ง
การส่งเสริมให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เองโดยติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปในบ้าน ที่อยู่อาศัยเพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและสามารถนำส่วนที่เหลือมาขาย เข้าระบบได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้า ด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผันผวน และมีราคาสูงจากผลของภาวะวิกฤตการณ์ ราคาพลังงานโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ด้วย” นายคมกฤช กล่าว