รฟท. เดินหน้าแก้ผู้บุกรุกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

นายสมยุทธ์ เรือนงาม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.ได้ร่วมกับกรมชลประทานเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่อาศัยในแนวโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อทำให้โครงการที่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เดินหน้าต่อไปได้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน นำกำลังเข้าดำเนินการรื้อถอนย้ายอาคารและสิ่งปลูกสร้างของประชาชนที่อยู่อาศัย ในแนวโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินบริเวณแนวเส้นทางรถไฟโรงเรียนบ้านเขาชีจรรย์ หมู่ 11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นที่เรียบร้อย

นายสมยุทธ์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาผู้บุกรุกในเขตทางก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในส่วนของ รฟท. ได้แก้ปัญหาแล้วเสร็จไปแล้ว 100% คงเหลืออีก 2 ราย ในพื้นที่ของกรมชลประทาน ที่ รฟท. ขอใช้พื้นที่ในเขตทางโครงการเท่านั้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• มทร.สุวรรณภูมิ เปิดหลักสูตรวิศวะหุ่นยนต์ปี 65 รับ EEC
• วันที่ฟ้าเปิด ธุรกิจส่งสัญญาณลงทุนเพิ่ม จ้างงาน คนว่างงานมีโอกาสมัครงาน !
• รฟท. เปิดประชาพิจารณ์พัฒนาพื้นที่ตลาดคลองสาน เล็งเปิดเป็นโรงแรม-ร้านค้า

ยืนยันว่าได้มีการทำความเข้ากับผู้บุกรุกมาตลอด โดยหลังการดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกแล้วเสร็จ รฟท. ก็มีแผนในการดำเนินการ ส่งมอบพื้นที่ให้เอกชน ผู้ได้รับสัมปทานโครงกรรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในวันที่ 24 ก.ค. 2565 นี้

ส่วนความก้าวหน้าการรื้อย้ายสาธารณูปโภคในช่วง เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย งานรื้อย้ายสาธารณูปโภค ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา หน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคลงพื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 357 จุด (609 งาน) จากทั้งหมด 400 จุด (668 งาน) โดยมีสาธารณูปโภคที่ดำเนินการ รื้อย้ายหลังส่งมอบระหว่างการก่อสร้างโครงการฯ จำนวนทั้งหมด 135 งาน ได้ดำเนินการแล้ว 76 งาน คงเหลืองานรื้อย้าย 59 งาน การรื้อย้ายสาธารณูปโภคงานสุดท้ายจะรื้อย้ายแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 65 ส่วนงานรื้อย้ายสาธารณูปโภค ช่วงพญาไท-ดอนเมือง ลงพื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 18 จุด (18 งาน) จากทั้งหมด 68 จุด (67 งาน)

สำหรับการแก้ปัญหา ผู้บุกรุก พื้นที่เขตทางรถไฟ และพื้นที่บางส่วนของกรมชลประทาน ที่อยู่ในแนวเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำความเข้าใจ เจรจาไปแล้วหลายครั้ง ถึงความจำเป็นต้องเร่งส่งพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการ ปรับสภาพเส้นทาง รองรับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวตามสัญญา

โดยที่ผ่านมาได้มีการเจรจาเพื่อจ่ายค่าทดแทนให้ชาวบ้านทั้ง 2 ราย จากเดิมได้มีการประเมินราคาค่าทดแทน และทำสัญญาไปตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2564 รายที่ 1 ได้รับค่าทดแทน 1,920,600 บาท รายที่ 2 ได้รับค่าทดแทน 821,929 บาท

ทั้ง 2 รายจะต้องยื่นเอกสารแสดงสิทธิการเช่าที่ดิน กับกรมชลประทานก่อนให้ครบถ้วน แต่ปรากฏว่าผู้ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถแสดงสิทธิ์ได้ รฟท.จึงไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนตามข้อตกลงดังกล่าว

ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนค่าทดแทนตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด โดยระบุให้ผู้เสียหายได้รับค่าทดแทนส่วนหนึ่ง การรถไฟฯ ได้มีหนังสือแจ้งประกาศครอบครองไปยังคู่กรณี แต่ชาวบ้านทั้ง 2 ราย ไม่ยินยอม

ในกรณีดังกล่าวการรถไฟฯต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากผู้ร้องขอไม่สามารถแสดงสิทธิในที่อยู่อาศัยได้ จะกลายเป็นการบุกรุกที่ดินของรัฐ ไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนได้ ทาง รฟท. ยังพิจารณาจัดสรรค่าทดแทนบางส่วนเพื่อช่วยเหลือ

ล่าสุด รฟท. ได้ทำหนังสือแจ้งผู้อาศัยให้มารับเงินค่าทดแทนตามกำหนดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2565 ทว่าทั้ง 2 ราย ยังไม่ยินยอม รฟท. จึงต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเจรจาต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงจำเป็นต้องเข้าดำเนินรื้อถอนตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด หลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่รัฐส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาล่าช้า และเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนสวนรวม

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา มีทั้งหมด 9 สถานี รวมระยะทางกว่า 220 ก.ม. มูลค่า 224,500 ล้านบาท  เป็นโครงการช่วยสนับสนุนการพัฒนา EEC เพื่อก่อให้เกิดการลงทุน การท่องเที่ยว ก่อประเทศต่อเศรษฐกิจโดยสารของประเทศในอนาคต