แถลงจาก Samsung และ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ทำให้วงการเทคโนโลยีต้องติดตามนอกจากสถานการณ์เงินเฟ้อแล้ว ราคาชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์ได้เตรียมขึ้นราคา ซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์ไอที เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงรถยนต์ที่มีการใช้ชิป มีราคาสูงขึ้นในอนาคต
ซัมซุง กำลังประกาศแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาสำหรับการผลิตชิป ซึ่งสูงถึง 20% ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อขึ้นราคาเพื่อให้ครอบคลุมค่าวัสดุและค่าขนส่งที่สูงขึ้น
ราคาชิปตามสัญญามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ถึง 20% ขึ้นอยู่กับระดับของความซับซ้อน โดยชิปที่ผลิตบนโหนดแบบเดิมมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการปรับขึ้นราคาที่มากขึ้น และเสริมว่า Samsung ได้เสร็จสิ้นการเจรจากับลูกค้าบางราย
ซัมซุงกล่าวในการเรียกรายได้เมื่อปลายเดือนเมษายนว่าความต้องการของลูกค้ารายใหญ่สำหรับการผลิตชิปตามสัญญามีมากกว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่ และคาดว่าปัญหาการขาดแคลนอุปทานจะดำเนินต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ในฝั่งของ TSMC บริษัทที่ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกในประเทศไต้หวัน (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.)
TSMC ได้ประกาศเตรียมที่จะปรับขึ้นราคาครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทบอกกับลูกค้าว่าจะขึ้นราคาถึง 20% ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและแผนการขยายธุรกิจครั้งประวัติศาสตร์
มาร์ค หลิว ประธาน TSMC กล่าวในเดือนมีนาคมว่า ผู้เล่นเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมดได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาส่วนประกอบและวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่ทาง TSMC ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกำหนดราคา ซึ่งต้องรอเฝ้าติดตามกันต่อไป
ASML ผู้ผลิตเครื่องมือการผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของยุโรปกล่าวกับนักลงทุนว่าต้องเผชิญกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ต้นทุนแรงงาน วัสดุและพลังงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการรักษาความปลอดภัยชิ้นส่วน ซึ่งทั้งหมดจะกระทบอัตรากำไรขั้นต้น 1%
เป็นสัญญานที่บ่งบอกว่าเทคโนโลยีต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์จะมีราคาที่สูงขึ้นจากเดิม เนื่องจากต้นทุนในด้านชิปต่างๆได้ถูกขึ้นราคาจากบริษัทผลิตชิปเจ้าใหญ่ต่างๆนั่นเอง