Technoligy เทคโนโลยี สามารถพัฒนาชีวิตและหากใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทุ่นแรงได้อย่างมหาศาล ถึงขั้นที่ว่า มนุษย์เพียงคนเดียว สามารถทำงานบนพื้นที่ไร่ฝ้ายขนาดมากกว่า 200 ไร่ได้เลย แบบนี้เรียกว่า ไร่ฝ้ายอัจฉริยะ ได้เลย
เทคโนโลยี Technology สามารถพัฒนาชีวิตและหากใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทุ่นแรงได้อย่างมหาศาล ถึงขั้นที่ว่า มนุษย์เพียงคนเดียว สามารถทำงานบนพื้นที่ไร่ฝ้ายขนาดมากกว่า 200 ไร่ได้เลย
เรื่องราว เทคโนโลยี Technology นำเทรนด์ หรือ เทคโนโลยี นำพาชีวิตให้ดีขึ้นแบบนี้ เกิดขึ้นที่ประเทศจีนเกิดขึ้นในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน , โดย เป็นเรื่องราวของ "โม่เสี่ยวอวี้" สาววัย 29 ปี ซึ่งเธอได้บันทึกภาพกระบวนการใช้เครื่องจักรในขั้นตอนทำฟาร์ม เพาะปลูก และเก็บเกี่ยว ทว่าการจัดการแหล่งเพาะปลูกแบบดั้งเดิมยังต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์อย่างมาก โดยเฉพาะขั้นตอนจ่ายน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภาพวาดมาริลีน มอนโร ผลงาน แอนดี้ วอร์ฮอล ถูกประมูล 195 ล้าน แพงสุดในศตวรรษ 20
สถิติการตัดไม้ในป่าแอมะซอนของบราซิลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ซึ่งในปกติแล้ว , พื้นที่ปลูกฝ้าย ราว 4-6 ไร่ จะ ต้องการเสาจ่ายน้ำ 1 ต้น และสวิตช์หลายตัวที่ต้องใช้มนุษย์ควบคุม แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจึงดำเนินสารพัดการทดลองเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เทคโนโลยีล่าสุด และนำผลลัพธ์ไปตั้งโปรแกรมเพื่อยกระดับวิธีการจัดการ
.
โดย เสาจ่ายน้ำในพื้นที่ทดลองเกือบ 270 ต้น ถูกเปลี่ยนเป็นเสาจ่ายน้ำอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยี ทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องให้ปุ๋ยและชลประทานอัตโนมัติขั้นสูงเพื่อเอื้อต่อการควบคุมระยะไกล รวมถึงประยุกต์ใช้โดรนแบบสำรวจระยะไกลในภารกิจลาดตระเวน ซึ่งปกติแล้วต้องใช้แรงเกษตรกรลงพื้นที่เท่านั้น
.
"ภาพถ่ายโดยโดรนสำรวจระยะไกล ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สามารถบอกอัตราการงอก การเติบโต และสถานการณ์ศัตรูพืชของฝ้าย มันเจ๋งมากจริงๆ ค่ะ” "โม่เสี่ยวอวี้" กล่าว
ก่อนการทดลองเพาะปลูกในปี 2021 กลุ่มเกษตรกรท้องถิ่นเผยกับโม่เสี่ยวอวี้ ว่าพวกเขาเคยใช้แรงงาน 20-30 คน ดูแลไร่ฝ้ายขนาด 1,250 ไร่ แต่ตอนนี้ทีมงานที่มีเกษตรกรรุ่นใหม่เพียงไม่กี่คนก็สามารถทำงานนี้ได้แล้ว เนื่องด้วยระบบการจัดการแบบไร้มนุษย์ควบคุม ซึ่งนี่ถือเป็นเทรนด์ของโลกแห่งอนาคต ที่เทคโนโลยีจะมาพลิกฟื้นเปลี่ยนชีวิต
"ปีนี้เราตั้งเป้าบรรลุอัตราการจัดการแบบไร้มนุษย์ควบคุมกว่าร้อยละ 80 ” หลิงเหล่ย สมาชิกในทีมที่เกิดปี 1993 แสดงความคิดเห็น
อ้ายไห่เผิง หนึ่งในทีมงานวัย 32 ปี กล่าวว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคือแสวงหารูปแบบการจัดการฟาร์มไร้มนุษย์ควบคุมที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นการทำ เทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโชน์สูงสุด จะช่วยลดความยากลำบากและค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญ และเปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวมีส่วนร่วมในการเกษตรขนานใหญ่มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ โม่เสี่ยวอวี้" อาสาดูแลแปลงปลูกขนาดราวๆ 208 ไร่ ภายใต้การสนับสนุนจากทีมด้านเทคนิค เพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนของรูปแบบการจัดการ โดยโม่เสี่ยวอวี้ได้เช่าบ้านจากคู่สามีภรรยาชาวอุยกูร์ในหมู่บ้านใกล้กับทุ่งฝ้ายมากที่สุดเพื่อรับผิดชอบหน้าที่ใหม่นี้
"ฉันอยากเห็นว่าวิถีชีวิตของเกษตรกรรุ่นใหม่จะเป็นยังไง ผู้คนควรจินตนาการและมีความคาดหวังต่อเกษตรกรรมและชนบทดีกว่านี้" โม่เสี่ยวอวี้ เผย